ค่าไฟในประเทศฟิลิปปินส์แพงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังจะปรับสูงขึ้นไปอีก เพราะว่าภาษีตัวใหม่ที่เข้าสภาไปแล้วนั้น ซึ่งอาจทำให้ฟิลิปปินส์มีปัญหาในอนาคตเกี่ยวกับการลงทุนในประเทศ เพราะค่าไฟที่แพงขึ้น แต่อาจเป็นข่าวดีสำหรับเหล่า NGO ที่รักโลก
นโยบายภาษีใหม่ของรัฐบาล ปธน. ดูเตอร์เต้อันใหม่นั้นจะทำให้ค่าไฟของประเทศฟิลิปปินส์นั้นแพงขึ้นไปอีก เพราะภาษีถ่านหินตัวใหม่ที่ขึ้นจาก 10 เปโซต่อถ่านหิน 1 ตัน เป็น 50 เปโซ ภายในปีหน้า และจะขึ้นไปสูงสุดที่ 150 เปโซต่อถ่านหิน 1 ตัน ภายในปี 2020 คาดว่าอัตราภาษีตัวใหม่นั้นจะนำเม็ดเงินบางส่วนกลับมาได้ หลังจากปธน. ดูเตอร์เต้นั้นได้เน้นการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมากมายในประเทศฟิลิปปินส์ โดยทางภาษีถ่านหินตัวใหม่นี้นั้นปรับแก้ไขในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว
กระทบกับประชาชนแน่นอน
ข้อมูลในปี 2016 นั้นพลังงานไฟฟ้าในประเทศฟิลิปปินส์นั้น 48% นั้นมาจากถ่านหิน ซึ่งการปรับภาษีดังกล่าวนั้นจะทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอีก โดยที่ทางวุฒิสภาของฟิลิปปินส์ได้ออกมากกล่าวว่าค่าไฟนั้นจะไม่ได้ขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างเห็นได้ชัด โดยค่าไฟที่ขึ้นมานั้นเพียงแค่ 8 เปโซต่อกิโลวัตต์เท่านั้น ส่วนตัวแทนของทางผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่อย่าง Semirara และ Aboitiz Power ต่างยืนยันว่าภาษีใหม่ไม่กระทบต่อผลกำไรของบริษัทแน่นอนเพราะว่าภาษีถ่านหินที่ปรับแก้ไขนั้นจะให้บริษัททั้งสองนั้นผลักค่าภาษีให้กับประชาชนแทน ถึงแม้ว่าราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทจะลดลงเพราะข่าวนี้ก็ตาม
ยุคภาษีอาน?
นอกจากภาษีถ่านหินที่ปรับปรุงใหม่แล้ว ยังมีภาษีที่ปรับใหม่แล้วอย่างเช่นภาษีน้ำมัน เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ภาษีเหมืองแร่ และรวมไปถึงภาษียานยนต์ในประเทศฟิลิปปินส์ ที่กำลังจะขึ้นพร้อมกันถ้วนหน้า ส่วนภาษีที่จะขึ้นภายในปี 2020 นั้นคือภาษีบุหรี่ที่ปรับปรุงใหม่ แต่ยังมีข่าวดีเล็กๆ แก่ประชาชนฟิลิปปินส์คือภาษีเงินได้บุคคลนั้นจะลดลง โดยเมื่อปรับตัวเงื่อนไขภาษีทั้งหมดแล้วรัฐบาลฟิลิปปินส์จะได้รายได้เพิ่มขึ้นปีละ 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ
แต่อาจโดนตีตก
สำนักข่าว ABS-CBN ได้รายงานว่าล่าสุดนั้นภาษีถ่านหินฉบับใหม่อาจโดนตีตกไป โดยมีวุฒิสภาบางส่วนให้นั้นโหวตแย้ง โดยเรื่องสำคัญคือค่าไฟที่แพงขึ้นซึ่งเป็นการผลักภาระนี้ให้ประชาชนฟิลิปปินส์ และอาจต้องมีการแก้ตัวกฏหมายภาษีถ่านหินใหม่นี้อีกรอบ เพราะสิ่งที่กำลังถกเถียงในสภาคือเรื่องของถ่านหินในประเทศกับนอกประเทศ ซึ่งวุฒิสภาบางส่วนเห็นว่าควรจะขึ้นภาษีถ่านหินที่นำเข้า เพราะถ่านหินที่นำเข้ามาเกือบ 88.3% นั้นมาจากประเทศอินโดนีเซียซึ่งควรจะขึ้นภาษีมากกว่าถ่านหินในประเทศเอง
ที่มา – Bloomberg, ABS-CBN, CNN Philippines
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา