ดุสิต ฟู้ดส์ บริษัทย่อยภายใต้ บมจ. ดุสิตธานี ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้รายได้บริษัทฟื้นตัวขึ้นมากหลังเจอวิกฤตโควิดระบาด กำลังเตรียม IPO แล้ว
โดยศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Nikkei Asia ว่ากำลังเตรียมเดินหน้า IPO ภายในปี 2025 หรือต้นปี 2026
ดุสิต ฟู้ดส์ ทำรายได้เติบโตถึง 33% เทียบกับปีก่อนหน้า เป็น 1.66 พันล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 ศุภจีตั้งเป้าว่ารายได้น่าจะเติบโตทะลุ 2.5 พันล้านบาทได้ในปี 2027 โดยบริษัทเตรียมจะขยายธุรกิจเบเกอรี่และธุรกิจจัดทำอาหารบนเครื่องบินต่อไป
เดิม รายได้หลักของกลุ่มดุสิตธานีมาจาก 2 ภาคส่วนคือธุรกิจโรงแรม 90% ที่เหลือคือธุรกิจจากสถาบันการศึกษา หรือโรงเรียนสอนการประกอบอาหาร Le Cordon Bleu
หลังจากนั้นกลุ่มดุสิตธานีก็ได้กระจายธุรกิจออกไปให้หลากหลายยิ่งขึ้น ปีที่ผ่านมามีรายได้จากโรงแรมอยู่ที่ 68.5% จากรายได้รวม 6.4 พันล้านบาท ขณะที่ธุรกิจอาหารทำรายได้อยู่ที่ 19.3% ธุรกิจจากการศึกษา 6.2% ธุรกิจให้บริการและการจัดการอยู่ที่ 5.3% และอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 0.7%
การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ดังกล่าวช่วยทำให้ผลการดำเนินการทางการเงินของดุสิตธานีฟื้นตัวได้หลังจากถูกสถานการณ์โควิดระบาดถล่มอย่างหนักหน่วงจนต้องล็อคดาวน์ในปี 2020 ส่งผลให้ขาดทุนราว 1 พันล้านบาท
หลังจากนั้นภาวะขาดทุนดังกล่าวก็ค่อยๆ ดีขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ขาดทุนอยู่ที่ 9 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดทุนอยู่ที่ 177 ล้านบาท ราคาหุ้นก็ปรับตัวกลับมาดีขึ้นด้วย
ศุภจีได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเปิดตัวโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Dusit Central Park) โครงการมิกซ์ยูส มูลค่ากว่า 4.6 หมื่นล้าานบาท โดยมีทำเลตั้งอยู่ในโรงแรมดุสิตธานีเดิม ศุภจีย้ำว่าโรงแรมยังเป็นธุรกิจหลักของดุสิตธานีต่อไป
สำหรับโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ประกอบด้วยพื้นที่ 4 ส่วน ส่วนแรกที่จะเปิดคือโรงแรมที่มีห้องพักรวม 257 ห้อง ตามด้วยสำนักงาน ศูนย์การค้า และที่อยู่อาศัย
การเปิดตัวโครงการนี้จะทำให้ดุสิตธานีกลายเป็นเครือโรงแรมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทย โดยเป็นเจ้าของและดำเนินการโรงแรม รวม 8 แบรนด์ 56 แห่ง ใน 18 ประเทศและบริหารเพิ่มอีกเกือบ 250 แห่ง เมื่อเทียบกับ Minor International แล้วยังมีขนาดที่เล็กกว่า เนื่องจาก Minor เป็นเจ้าของและจัดการโรงแรม 540 แห่ง ใน 56 ประเทศ
ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นการร่วมทุนกันระหว่างดุสิตธานี ถือหุ้นอยู่ที่ 70% และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และศูนย์การค้า
ศุภจีประเมินว่าน่าจะใช้เวลาราว 3-4 ปีถ้าจะมีโรงแรมให้ครบ 100 แห่งตามเป้าที่กำหนดไว้ ซึ่งก็น่าจะเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในแถบเอเชียและยุโรป ตอนนี้มี 60 แห่งอยู่ในแผนเรียบร้อยแล้ว แผนก่อสร้างกำลังจะตามมา
ที่มา – Nikkei
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา