ดีแทครายงานผลการดำเนินงานสำหรับครึ่งปีแรกของพ.ศ. 2559 โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 41.5 พันล้านบาท กำไรสุทธิที่ 1.4 พันล้านบาท และประกาศจ่ายปันผลในอัตรา 0.42 บาทต่อหุ้น
ฐานลูกค้ารายเดือนและรายได้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งอันเนื่องมาจากการปรับปรุงคุณภาพและภาพลักษณ์ของโครงข่าย ข้อเสนอที่ดีที่สุดในตลาด แคมเปญอุปกรณ์มือถือที่ดึงดูด และการเพิ่มจำนวนดีแทคช้อป โดยในไตรมาส 2/2559 จำนวนและรายได้ค่าบริการจากฐานลูกค้ารายเดือนเพิ่มขึ้น 191,000 เลขหมาย และ 9.2% ตามลำดับ ในส่วนของลูกค้าแบบเติมเงิน มีความท้าทายหลายประการได้แก่ การอุดหนุนราคาอุปกรณ์มือถืออย่างกว้างขวาง การรุกหนักของแคมเปญการย้ายค่ายเบอร์เดิม และกระแสความนิยมของลูกค้าแบบเติมเงินเปลี่ยนไปเป็นแบบรายเดือน แม้ว่ามีการเติบโตอย่างมากของลูกค้าแบบรายเดือน แต่รายได้รวมจากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) สำหรับในครึ่งปีแรกของปี 2559 ลดลง 2.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมการปรับปรุงรายการทางบัญชีในส่วนของรายได้จากลูกค้าแบบเติมเงินในไตรมาส 2/2559 รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) สำหรับในครึ่งปีแรกของปี 2559 จะลดลงเพียง 1.7% รายได้จากการให้บริการข้อมูลซึ่งคิดเป็น 54% ของรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่า IC ยังคงเป็นส่วนที่ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ ดีแทคมีการครอบครองคลื่นความถี่ที่แข็งแกร่งโดยมีแบนด์วิดธ์ 50 MHz ที่สามารถรองรับการเติบโตของความต้องการจากการใช้บริการข้อมูลได้อีกมาก และสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายได้อย่างดีที่สุดแก่ลูกค้าบนเทคโนโลยี 2G/3G/4G
ดีแทคได้ติดตั้งสถานีฐานสำหรับการบริการ 3G/4G เพิ่มเติมจำนวน 17,388 สถานีในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสนี้ บริการดีแทค Super 4G บนคลื่น 1800 MHz สามารถครอบคลุม 77 จังหวัด และยังคงเป็นไปตามแผนที่จะครอบคลุม 878 อำเภอทั่วประเทศไทยภายในสิ้นสุดไตรมาส 3/2559 ดีแทคได้เพิ่มความกว้างแบนด์วิดธ์สำหรับการให้บริการ 4G บนคลื่น 1800MHz เป็น 20MHz กว้างที่สุดบนคลื่นเดียว (Single-Carrier Bandwidth) ครอบคลุมพื้นที่ใช้งานกรุงเทพ-ปริมณฑล โดยดีแทคเป็นรายเดียวที่ให้บริการ 4G ด้วยคลื่น 1800MHz ที่มีคลื่นกว้างที่สุดเพียงคลื่นเดียวถึง 20MHz ทำให้เครือข่าย 4G ของดีแทคสามารถรองรับอุปกรณ์มือถือ 4G ได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อในตลาด รองรับประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตที่เต็มสปีด เร็ว แรง ลูกค้าทั้งหมดที่มีอุปกรณ์ที่รองรับบริการ 4G สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การใช้งาน 4G ที่ดีที่สุดในตลาด นอกเหนือจากนั้นคุณภาพและภาพลักษณ์ของโครงข่ายได้ถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องไปพร้อมๆกับการขยายโครงข่าย อันเป็นผลให้จำนวนลูกค้าผู้ใช้บริการ 4G เพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านเลขหมายหลังจากจบไตรมาส 2/2559 จากเดิมที่ 1.3 ล้านเลขหมายในปีที่ผ่านมา ฐานลูกค้าทั้งหมดอยู่ที่ 25 ล้านราย โดยร้อยละ 92 ของจำนวนนี้ได้ลงทะเบียนภายใต้ดีแทคไตรเน็ต (DTN) เรียบร้อยแล้ว นอกเหนือจากการปรับปรุงเครือข่ายแล้ว ดีแทคยังได้เปิดตัวบริการ ‘dtac Music Infinite’ และแบรนด์ดีแทคเติมเงิน ‘dtac prepaid’ เพื่อนำเสนอบริการที่ดึงดูดและตรงประเด็นสำหรับการดำเนินชีวิตแบบดิจิทัล ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆจะถูกเปิดตัวตามมาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ดีแทคกลายเป็นแบรนด์ดิจิทัลหมายเลข 1 ในประเทศไทย
ในไตรมาส 2/2559 ดีแทคได้เพิ่มการอุดหนุนค่าอุปกรณ์มือถือเพื่อรักษาตำแหน่งทางการตลาด นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขาย การตลาด และการบริหารงานทั่วไป (ยกเว้นค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างซี่งเป็นค่าใช้จ่ายแบบครั้งเดียว) ได้ถูกควบคุมอย่างดี แม้ว่าระดับการแข่งขันทางการตลาดที่สูง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบริการได้ถูกลดลงจากค่าต้นทุนจากส่วนแบ่งรายได้ที่น้อยลงซึ่งได้ถูกหักล้างบางส่วนด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเกี่ยวกับเครือข่ายที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBIDA margin) สำหรับครึ่งปีแรกของพ.ศ. 2559 นี้เพิ่มขึ้นเป็น 33.6% เปรียบเทียบกับ 31.5% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายได้เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงข่าย ดังนั้นในครึ่งปีแรกของ 2559 กำไรสุทธิได้ลดลง 62% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
เราได้ปรับการประมาณการผลการดำเนินงานของปี 2559 ใหม่เพื่อสะท้อนผลประกอบการจริงที่เกิดขึ้นในครึ่งปีแรกนี้ การประมาณการนี้ประกอบด้วย (1) รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่า IC ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน (2) EBITDA margin อยู่ในช่วง 31-33% และ (3) CAPEX อยู่ในช่วงเดียวกันจากปีที่แล้ว
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดีแทค กล่าวว่า “เราพอใจที่เห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในส่วนของรายได้จากลูกค้าแบบรายเดือน สิ่งนี้สะท้อนถึงการปรับปรุงคุณภาพและภาพลักษณ์ของโครงข่าย และความพยายามของเราในการนำเสนอลูกค้าด้วยประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุด การบริการที่ดึงดูดและตรงประเด็น และโปรโมชั่นที่คุ้มราคา นอกเหนือจากนี้ การเติบโตของรายได้จากการให้บริการข้อมูลยังเติบโตแบบมีอัตราเร่ง ซึ่งหลักๆมาจากบริการสตรีมมิ่งของวีดีโอและเพลง เรามีการครอบครองคลื่นความถี่ที่แข็งแกร่ง และสามารถรองรับการเติบโตในการใช้บริการข้อมูลเป็นอย่างดี นอกจากนี้ เรายังได้จัดสรรแบนด์วิดธ์เพิ่ม 20 MHz สำหรับแถบคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ทำให้เป็นแถบความถี่ที่กว้างที่สุดในตลาดที่สามารถให้บริการ 4G ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และยังมีแผนที่จะขยายโครงข่าย 4G เพื่อให้ครอบคลุม 878 อำเภอทั้งหมดทั่วประเทศไทยเพื่อที่รองรับการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ตจากอุปกรณ์มือถือ นอกจากนี้ เราจะยังคงความคุ้มค่าคุ้มราคาของโปรโมชั่น แพ็กเกจเสริม และราคาอุปกรณ์มือถือต่อไป
คลื่นความถี่ไม่ใช่สิ่งที่เราจะกังวลในระยะเวลาอันสั้นนี้เพราะว่าเรามีการครอบครองคลื่นความถี่ที่แข็งแกร่งด้วยแบนด์วิดธ์ถึง 50 MHz นอกจากนี้เรายังมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการเข้าร่วมและชนะประมูลคลื่นความถี่ในอนาคตอีกด้วย เราอยากจะโน้มน้าวให้ภาครัฐบาลหรือหน่วยงานภาครัฐบาลที่กำกับดูแลจะต้องพิจารณากำหนดแผนจัดสรรคลื่นความถี่ที่แน่นอน ในการบริหารคลื่นความถี่สำหรับอุตสาหกรรมนี้ เพื่อที่ว่าทุกบริษัทจะสามารถวางแผนธุรกิจระยะยาวได้”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา