ดีแทคเตรียมความพร้อมปรับกลยุทธ์การทำงาน ให้บริการลูกค้าได้ต่อเนื่อง รับมือโควิด-19

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สร้างความกังวลให้กับหลายอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมการสื่อสาร เพราะต้องให้บริการลูกค้าได้ตลอดเวลา

ดีแทค เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ออกมาประกาศสร้างความมั่นใจในการให้บริการกับลูกค้าตลอดเวลา 24 ชั่วโมง รวมถึงออกมาตรการการทำงานเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพนักงานของดีแทคเองอีกด้วย

ชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ภาพจากดีแทค

ชารัด เมห์โรทรา CEO ของ ดีแทค บอกว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ดีแทคเริ่มทดลองให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ให้พนักงานได้ทำงานในสถานที่และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งดีแทคได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจ เพราะการติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการสื่อสารกับครอบครัว การติดต่อธุรกิจ และการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จากรัฐบาล

ในด้านการให้บริการแก่ลูกค้า ดีแทคมั่นใจว่าจะสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีการเตรียมความพร้อมทั้งในระบบการปฎิบัติงานของโครงข่าย และระบบ Call Center ของดีแทค ซึ่งมีอยู่ 3 แห่งให้ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

ส่วนกลยุทธ์การทำงาน ดีแทคได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกที่ ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะที่บ้านของพนักงาน หรือที่อื่นๆ โดยการใช้ระบบคลาวน์เข้ามาประยุกต์ เช่น การประชุมผ่านทางคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ การแชร์ข้อมูล การแชร์ไฟล์ เพื่อทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์เหมือนนั่งทำงานด้วยกันที่สำนักงาน

พนักงานดีแทคทดลองประชุมผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ภาพจากดีแทค

ดีแทคใช้เทคโนโลยี เตรียมความพร้อม Work From Home

ดีแทคได้มีการใช้ระบบคลาวน์ในการทำงาน ผ่านแอปพลิเคชัน Microsoft SharePoint และ Microsoft Teams ซึ่งสามารถใช้ในการประชุมแบบเห็นหน้า (VDO Conference) เข้าถึงและแก้ไขไฟล์เอกสารงานได้แบบทันที สามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่ต้องเข้าสำนักงาน สามารถทำงานได้จากทุกอุปกรณ์ ทั้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่แท็บเล็ต ส่วนการติดต่อสื่อสารของพนักงาน ดีแทคได้เลือกใช้แอปพลิเคชัน WorkPlace ของ Facebook เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารของพนักงาน

ประเด็นด้านความปลอดภัยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญ เพราะการทำงานจากที่บ้าน หรือจากสถานที่อื่น จำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ต ซึ่งพนักงานอาจเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่มีความปลอดภัย ทางแก้ง่ายๆ คือ ดีแทค จึงให้พนักงานเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านระบบ VPN หรือ Virtual Private Network ซึ่งจะสามารถเข้ารหัสข้อมูล และการเข้าถึงเครือข่ายของบริษัทได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น

มาตรการรับมือของดีแทคในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ภาพจากดีแทค

สลับการทำงาน 2 ทีม เตรียมพร้อมตลอดเวลา

ความกังวลของบริษัทส่วนใหญ่คือ จะทำอย่างไรหากมีพนักงานเสี่ยงติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพราะแน่นอนว่าต้องมีการกักตัวเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน ทำให้พนักงานทั้งแผนกต้องหยุดงานโดยไม่ได้เตรียมตัวก่อน ซึ่งทางดีแทคก็ได้ทดลองปรับรูปแบบการทำงานตั้งแต่แรก ในวันที่ 18-19 มีนาคมนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมตั้งแต่แรก โดยแบ่งพนักงานออกเป็น 2 ทีม ทั้งระดับผู้บริหาร และระดับพนักงาน ซึ่งทั้ง 2 ทีมสามารถสลับกันเข้ามาทำงานที่สำนักงาน และทำงานจากที่บ้าน ช่วยลดความเสี่ยงที่จะไม่มีพนักงานปฎิบัติงาน

แม้ว่าสถานการณ์จะยังไม่รุนแรงถึงขั้นปิดเมือง แต่อย่างน้อยมาตรการแบ่งพนักงานออกเป็น 2 ทีม จะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ได้ เพราะจำนวนพนักงานที่เดินทางเข้ามาในสำนักงานของดีแทคลดลง หรือหากมีพนักงานเข้าข่ายต้องเฝ้าระวัง พนักงานอีกทีมสามารถสานต่องานได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดชะงัก

ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของพนักงาน

ไม่ใช่การปรับกระบวนการทำงานเท่านั้น เพราะการมาตรการด้านสาธารณสุขก็มีความสำคัญเช่นกัน ดีแทคจึงตรวจวัดอุณหภูมิผู้มาติดต่อ และพนักงานทุกคนก่อนเข้าพื้นที่สำนักงานใหญ่ของดีแทค รวมถึงมีการทำความสะอาดจุดที่มีการสัมผัสบ่อยๆ โดยเฉพาะปุ่มกดลิฟท์ที่ต้องมีการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกๆ 1 ชั่วโมง ส่วนตอนกลางคืนต้องมีการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อภายในสำนักงานเป็นประจำเช่นกัน

ส่วนพนักงานที่ให้บริการลูกค้าต้องใส่หน้ากากอนามัยเพื่อสุขอนามัยที่ดี ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีพนักงานดีแทคคนใดที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ส่วนพนักงานที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต้องมีการเฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน จึงจะกลับมาทำงานได้

ที่มา – Dtac

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา