ตอนนี้วงการ Motorsport ต้องมีร้อนๆ หนาวๆ กันบ้าง เพราะล่าสุดเริ่มมีการนำรถแข่งไร้คนขับมาวิ่งทดสอบ และแข่งขันระหว่างรถแข่งไร้คนขับด้วยกันแล้ว แถมยังทำเวลาได้ดีด้วย
สมองกลพัฒนาถึงระดับสัญชาตญาณนักแข่ง
Roborace คือผู้ผลิตรถแข่งไร้คนขับ หรือ Autonomous Race Car รายแรกที่ส่งรถแข่ง 2 คันภายใต้ชื่อ DevBot ลงสนามแข่งขันจริงในรายการ Formula E หรือการแข่งขันรถสูตรพลังงานไฟฟ้า ที่สนาม Buenos Aires ePrix แต่การแข่งขันนั้นไม่ได้แข่งกับนักขับจริงๆ แต่อย่างใด เพราะทางบริษัทเพียงนำรถสองคันมาแข่งขันกันเองเท่านั้น
ซึ่งผลที่ออกมาก็ดีเลยทีเพียว โดยคันหนึ่งสามารถวิ่งจนจบการแข่งขันได้ ทำเวลาต่อรอบต่ำกว่าที่หนึ่งที่เป็นคนขับเพียง .30 วินาที ส่วนอีกคันไม่สามารถเข้าโค้งได้อย่างถูกต้อง จนต้องชนกับกำแพงสนาม และออกจากการแข่งขันครั้งนี้ไป ซึ่งในสนามถัดไปที่ประเทศเม็กซิโก รถแข่ง 2 คันนี้ก็จะถูกนำมาแข่งขันกันเองอีก รวมถึงในอีก 6 สนามที่เหลือด้วย
สำหรับข้อแตกต่างของรถแข่งทั้งสองคันนั้นมีเพียงสมองกลที่สามารถเรียนรู้การขับขี่ด้วยตนเองได้ นอกจากนั้นทุกอย่างเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบ หรือรูปทรง รวมถึงเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่ตรงตามกฎ Formula E ดังนั้นความเก่งของรถทั้งสองคันจึงขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ของสมองกลของทั้งสองคันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม Roborace ไม่ได้ออกแบบแค่รถเพื่อการแข่งขันในรายการ Formula E แต่ยังออกแบบ Robocar รถแข่งที่ล้ำสมัย และคงจุดเด่นเรื่องไร้คนขับ และมีสมองกลที่สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ และถ้ารถแข่งขันนี้ลงสนามจริง คงเป็นเรื่องที่น่าคิดสำหรับวงการ Motorsport ว่าจะให้แข่งได้หรือไม่ และถ้าแข่งแล้วเกิดชนะขึ้นมาจะปฏิวัติวงการได้อย่างไร
สรุป
เชื่อว่าอีกไม่นาน รถยนต์ไร้คนขับจะเข้ามามีบทบาทใน Motorsport มากขึ้นแน่นอน แต่ก็อยู่ที่กว่าคณะจัดการแข่งขันจะยอมรับนวัตกรรมใหม่หรือไม่ เพราะมันอาจจะทำให้การรับชมลดความสนุกลง และนักแข่งที่แข่งกับรถยนต์ไร้คนขับก็คงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังแข่งกับเกมคอมพิวเตอร์อยู่ แต่หากรถไร้คนขับชนะจริง ก็คงจะเป็นอีกอุตสาหกรรมที่ถูกหุ่นยนต์กลืนกิน
อ้างอิง // The world’s first AI driverless race cars will race in their own series
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา