DOONEE แพลตฟอร์มให้บริการพรีเมี่ยมคอนเทนต์ จับกระแสรายการอาหารที่กำลังได้รับความนิยมในไทย นำรายการแข่งขันทำอาหารสุดฮิตจากต่างประเทศให้คนไทยได้ดูแบบถูกลิขสิทธิ์ เปิดให้ทดลองดูฟรีในวันที่ 8-18 เมษายนนี้
รู้จัก DOONEE ผู้ให้บริการซีรีส์ฮอลลีวู้ดสายพันธุ์ไทย
ในยุคนี้หลายคนคงคุ้นเคยกับบริการวิดีโอ สตรีมมิ่งกันอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของคนออนไลน์มีการเสพคอนเทนต์อย่างมาก ส่งผลให้วิวัฒนาการของคอนเทนต์มีการเปลี่ยนไปในแต่ละยุค จาก VDO, VCD และ DVD มาจนถึง VDO On Demand
จึงได้เห็นผู้ให้บริการมากมายหลายเจ้า ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนผู้เล่นจากต่างประเทศทั้งสิ้น แต่ DOONEE เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เป็นแพลตฟอร์มสายเลือดไทย 100% ที่ต่อสู้กับยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศที่มีทุนการตลาดหนามาก
ถ้าให้ย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของ DOONEE ได้เริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัวที่เป็นศูนย์เช่า VDO ในชื่อ “เอสทีวิดีโอ” แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็เริ่มขยับตัวเป็นเช่า VCD, DVD และได้ปรับตัวสู่การเป็นผู้นำเข้าคอนเทนต์จากต่างประทเศเพื่อป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ
จนเมื่อปี 2555 ได้เปิดตัว DOONEE อย่างเป็นทางการ อาศัยจุดแข็งในการหาคอนเทนต์จากต่างประเทศ เป็นโมเดลธุรกิจแบบ Subscription Video on Demand (SVOD) หรือจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน หรือรายปี ในช่วงนั้นเป็นธุรกิจที่ใหม่มากในประเทศไทย
ที่มาของชื่อ DOONEE ก็เป็นคำง่ายๆ ที่เรียกเป็นภาษาไทยว่า “ดูนี่” เป็นคำติดปากคนไทย และจดจำได้ง่าย แถมยังสื่อได้ว่าถ้าจะดูทีวี ดูคอนเทนต์ต้องดูนี่เท่านั้น
ถ้าถามว่าบริการของ DOONEE มีอะไรบ้าง DOONEE ให้บริการพรีเมี่ยม คอนเทนต์เป็นรายการจากต่างประเทศมีครอบคลุมตั้งแต่ ภาพยนตร์, ซีรีส์ฮอลลีวูด, ทีวีโชว์, เกมโชว์, เรียลลิตี้โชว์, สารคดี และการ์ตูน เป็นคอนเทนต์ที่ถูกลิขสิทธิ์ 100%
DOONEE มีแพ็กเกจให้สมาชิกเลือกตั้งแต่แพ็กเกจรายวัน, รายเดือน และรายปี เริ่มต้นตั้งแต่ 9 บาท 150 บาท และ 1,500 บาท สมาชิกสามารถเลือกรับชมรายการได้ตามต้องการผ่านอินเตอร์เน็ตบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ได้แก่ คอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, ไอแพด, ไอโฟน, (iOS/Android) รวมไปถึง สมาร์ททีวี (Smart TV)
ขยายคอนเทนต์สู่รายการอาหาร รับกระแสความนิยมในไทย
อย่างที่กล่าวไปว่าคอนเทนต์ของ DOONEE มีให้เลือกหลากหลายรับความต้องการของผู้ชมตั้งแต่ภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการโชว์วาไรตี้ต่างๆ แต่เทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยตอนนี้ก็คือ “รายการแข่งขันทำอาหาร” เห็นได้จากหลายๆ สถานีโทรทัศน์ได้เอาคอนเทนต์ต่างๆ มาลงเพื่อจับกลุ่มคนดู เช่น Master chef และ Top Chef ล้วนได้รับกระแสความนิยมอย่างดี
DOONEE จึงไม่รอช้าที่จะจับตลาดนี้ด้วยการนำคอนเทนต์รายการอาหารเข้ามาเสริมทัพ นำรายการแข่งขันทำอาหารที่เรตติ้งดีตลอดกาลอย่าง Master chef, Hell’s Kithchen, Worst cook in America และ Kitchen Nightmare เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม
อย่างรายการ Master chef มีหลายเวอร์ชั่นทั้งอเมริกา, อังกฤษ และออสเตรเลีย เป็นรายการยอดนิยมตลอดในบรรดารายการแข่งขันทำอาหาร ซึ่งในบริการ DOONEE มีให้รับชมตั้งแต่ ซีซั่น 3 – 7 โดยในแต่ละซีซั่นมีความเข้มข้นของการแข่งขันไม่แพ้กัน
พิเศษสุดๆ เมื่อ DOONEE เปิดให้ทุกคนดูรายการวาไรตี้อาหาร 4 เรื่อง ทุกซีซั่น ฟรีสูงสุด 8 ตอน (จากเดิมเปิดให้ดูฟรีแค่ 2 ตอน) ตั้งแต่วันที่ 8 – 18 เมษายน 2562 โดยที่ไม่ต้องสมัครสมาชิกใดๆ ดูได้ทั้งเว็บไซต์ www.DOONEE.com และทาง DOONEE Application ทั้งระบบ iOS และ Andriod
เดือนละ 150 บาท ก็สามารถเพลิดเพลินได้ไม่อั้น
การสมัครเป็นสมาชิกของ DOONEE ก็ง่ายดาย และมีแพ็คเกจให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ โดยที่สามารถเลือกได้ตั้งแต่รายวัน รายเดือน และรายปี เพื่อจับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม
แพ็คเกจที่ลูกค้าสามารถสมัครสมาชิกได้อย่างง่ายดายคือ แพ็คเกจรายวันดูได้ไม่อั้น เพียงวันละ 9 บาท สามารถสมัครได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ กด*453*301#
หรือจะสมัครเป็นพ็คเกจรายเดือนดูได้ไม่อั้น 30 วัน เพียง 150 บาท และแพ็คเกจรายปีดูคอนเทนต์ได้ไม่อั้น 365วัน เพียง 1,500 บาท
ถือว่าเป็นแพ็คเกจราคาที่สามารถจับต้องได้ เป็นจุดแข็งที่สามารถสู้กับผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดได้ แถมยังเป็นแพลตฟอร์มของคนไทย เพื่อคนไทยโดยเฉพาะ
สรุป
ตลาด VDO on Demand เติบโตอย่างมากตามพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ที่เสพคอนเทนต์ออนไลน์มากขึ้น โดย DOONEE มีจุดแข็งที่คอนเทนต์หลากหลายแบบถูกลิขสิทธิ์ในราคาย่อมเยา การที่ขยายไปยังกลุ่มรายการอาหารยิ่งทำให้คอนเทนต์แข็งแกร่งมากขึ้น จับกลุ่มผู้ชมได้มากขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา