ประธานาธิบดีสหรัฐได้ออกมากล่าวถึงเรื่องที่ธนาคารโลก หรือ World Bank ยังปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศจีนอยู่ โดยกล่าวว่า ประเทศจีนนั้นมีเงินเป็นจำนวนมากแล้ว จะปล่อยกู้ทำไม หยุดปล่อยกู้ได้แล้ว
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวต่อว่าธนาคารโลกถึงเรื่องของการปล่อยกู้ให้กับประเทศจีน ซึ่งเป็นเม็ดเงินประมาณ 1,000 ถึง 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยเงื่อนไขดอกเบี้ยต่ำจนถึงปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ธนาคารโลกได้ปล่อยเงินกู้ให้จีนระยะเวลา 5 ปีกว่า 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ
ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ทวีตด้วยความสงสัยว่าทำไมธนาคารโลกถึงยังปล่อยเงินกู้ให้จีน เป็นไปได้ยังไง ทั้งๆ ที่ประเทศจีนมีเงินมหาศาล ซึ่งเม็ดเงินกู้ดังกล่าวนี้ธนาคารโลกก้อนนี้นั้นสนับสนุนให้ประเทศจีนในการปฏิรูปโครงสร้างของประเทศรวมไปถึงในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของจีน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจีนนั้นถึงแม้จะมีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดี แต่ก็แลกมาด้วยสิ่งแวดล้อมที่เสียหาย
ครึ่งปีแรกของปี 2019 นั้น ธนาคารโลกได้ปล่อยกู้ให้ประเทศจีนไปแล้วกว่า 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ น้อยกว่าในปี 2017 ที่ปล่อยกู้ให้จีนที่ 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยธนาคารโลกมีเป้าในการปล่อยกู้ให้จีนซึ่งทยอยลดลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ปริมาณการกู้เงินขึ้นอยู่กับแผนการที่ประเทศจีนที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นได้เสนอธนาคารโลกซึ่งจะอนุมัติว่าจะสามารถได้รับเงินกู้ได้หรือไม่ด้วย
สอดคล้องกับทาง สตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ ต้องการเสนอเรื่องให้ธนาคารโลกถอดจีนออกจากประเทศกลุ่มรายได้ต่ำถึงปานกลางออก และมองว่าจีนนั้นมีเงินช่วยเหลือจากองค์การระหว่างประเทศมากมายในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันจีนยังปล่อยกู้ให้ประเทศอื่นเป็นเม็ดเงินกว่าหลายแสนล้านเหรียญสหรัฐ เช่น โครงการเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 เป็นต้น
นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐนั้นยังกังวลถึงเรื่องของภาษีของชาวสหรัฐนั้นซึ่งส่วนหนึ่งนั้นเป็นเงินที่ให้ธนาคารโลกกู้ยืมอีกที เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือประเทศอื่นๆ นั้นกลับกลายต้องมาช่วยจีนซึ่งเป็นประเทศที่รวยแล้ว และยังเป็นประเทศที่พยายามเป็นคู่แข่งกับสหรัฐด้วย
ขณะเดียวกันตัวแทนของธนาคารโลกได้กล่าวว่าธนาคารโลกได้ทยอยลดวงเงินกู้ให้กับประเทศจีนมาเรื่อยๆ ซึ่งอยู่ในข้อตกลงของธนาคารโลก ซึ่งมีผู้ถือหุ้นหลายๆ ประเทศรวมไปถึงสหรัฐอเมริกาด้วย
Why is the World Bank loaning money to China? Can this be possible? China has plenty of money, and if they don’t, they create it. STOP!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) December 7, 2019
ที่มา – DW, Al Jazeera
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา