รู้จัก Zero Contact Drop-Off บริการส่งอาหารในวิกฤติโรค COVID-19 ของ Domino’s Pizza

Domino’s Pizza ในประเทศญี่ปุ่นมีการปรับตัวรับกับวิกฤติโรค COVID-19 ระบาด ผ่านการทำบริการส่งอาหารแบบ Zero Contact Drop-Off ที่ไม่มีการสัมผัสตัวผู้สั่ง และอาหารไม่หายแน่นอนอน

domino's pizza
Zero Contact Drop-Off ของ Domino’s Pizza

วางไว้บนกล่อง-เฝ้าจนกว่าจะมารับ

ในวิกฤติการระบาดของโรค COVID-19 บริการส่งอาหารนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะผู้บริโภคไม่อยากออกไปข้างนอก หรือบางคนต้องกักตัวเองทำให้ไปไหนไม่ได้ แต่การสั่งอาหารมาส่งที่บ้านมันก็ยังเสี่ยงการติดโรคนี้ระหว่างผู้สั่งกับผู้ส่ง แต่จะหากผู้ส่งมาวางอาหารไว้หน้าบ้านเฉยๆ มันก็เสี่ยงที่อาหารอาจถูกขโมยไปได้

Domino’s Pizza จึงแก้ปัญหาด้วยการทำ Zero Contact Drop-Off ถ้าแปลเแบบตรงๆ ก็คือการส่งอาหารแบบไม่สัมผัสกับผู้สั่ง โดยผู้สั่งต้องระบุว่าขอใช้บริการนี้เมื่อต้องการสั่งอาหารมาส่งที่บ้าน และเมื่ออาหารมาส่ง ผู้ส่งจะวางกล่องเปล่าเอาไว้ที่พื้น จากนั้นจะนำอาหารที่สั่งมาวางไว้บนนั้นอีกที เพื่อไม่ให้อาหารที่สั่งถูกวางไว้บนพื้นโดยตรง

หลังจากนั้นผู้ส่งจะกดกริ่ง หรือแจ้งให้ผู้สั่งว่าอาหารที่สั่งมาถึงแล้ว พร้อมกับยืนรออยู่บ้าน เมื่อผู้สั่งออกมารับอาหารที่สั่ง ผู้ส่งจะยืนห่างจากผู้สั่ง 2 ม. เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และพอผู้สั่งนำอาหารกลับเข้าไปในบ้านแล้ว ผู้ส่งก็จะเก็บกล่องเปล่ากลับมา โดยบริการดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. แล้ว

นอกจากนี้ในหน้าร้านของ Domino’s Pizza ที่ญี่ปุ่นยังเช็ดฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ทุก 2 ชม. และพนักงานทั้งในร้าน และพนักงานส่งอาหารจะมีการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เช่นกัน ที่สำคัญพนักงานกว่า 10,000 คน ใน 600 สาขาที่นั่นจะสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาด้วย

สรุป

บริการส่งอาหารเติบโตจริงๆ แต่ในการเติบโตนั้นมันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงการติดโรคของผู้ส่งอาหาร และผู้สั่งเช่นกัน ดังนั้นการป้องกันโดยไม่สัมผัสกันโดยตรงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งในประเทศไทยก็มีหลากหลายวิธีในการขนส่ง แต่ถึงขนาดยืนเฝ้าอาหารที่ส่งน่าจะยังมีไม่ค่อยมากเท่าไรนัก

อ้างอิง // Domino’s Pizza

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา