ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจทวีความเข้มข้น การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและแตกต่างจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จโดยเฉพาะการแข่งขันในเวทีโลก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดโครงการบ่มเพาะแบรนด์ไทย หรือ IDEA LAB ขึ้น โดยในรุ่นที่ 8 นี้เน้นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทางเศรษฐกิจสีเขียว จาก 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มสินค้านวัตกรรมอาหาร กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม และกลุ่มสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ขณะเดียวกันยังส่งเสริมการใช้พลังแห่งซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้เป็นเครื่องมือในการสร้างการรับรู้และจดจำด้วย
ม.ล. ภาสกร อาภากร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า DITP เล่าว่า “โครงการบ่มเพาะแบรนด์ไทยปีนี้มาพร้อมแนวคิด “Explore Your Exponential Growth” ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการค้นพบแนวทางในการพัฒนาแบรนด์ สร้างอัตลักษณ์ที่ชัดเจน ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเมกะเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน รวมทั้งการนำภูมิปัญญาและต้นทุนทางวัฒนธรรมของไทยมาใช้ในการสร้าง Story Telling ของแบรนด์ ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) สำคัญ ที่ช่วยขับเคลื่อนสินค้า แบรนด์ไทยให้เป็นที่จดจำ ซึ่งทั้ง 15 แบรนด์ที่เข้าร่วมการบ่มเพาะอย่างเข้มข้น ต่างกำลังเดินทางสู่การจัดทำคู่มือแบรนด์ของตัวเองเพื่อเป็นไบเบิลนำทางสู่การแข่งขันระดับสากลต่อไปในอนาคต”
ตัวอย่างแบรนด์ที่น่าสนใจ อาทิ “แบรนด์ “Panya Natural” (ปัญญา เนเชอรัล) แบรนด์สกินแคร์ธรรมชาติที่มีมะรุมเป็นส่วนผสมหลัก ผสานกับนวัตกรรมสร้างคุณค่าระดับพรีเมียมให้กับวงการสกินแคร์ธรรมชาติของไทย ตั้งแต่ปี 2014 ที่ กมลรัตน์ ลาดสีทา ได้ศึกษาองค์ความรู้ทางเกษตรพื้นบ้านและพืชพรรณธรรมชาติต่างๆ และได้รับแรงบันดาลใจจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จึงถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรในชุมชน ซึ่งไฮไลต์คือน้ำมันมะรุมผสมทองคำ นวัตกรรมที่สกัดจนได้โมเลกุลที่เล็กที่สุดในโลก 0.25 ไมครอน และทองคำแท้ 99.98% ที่มีโมเลกุลเล็กระดับนาโน สามารถซึมลงสู่ผิวชั้นลึกสุด ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ช่วยลดการเหนื่อยล้าของผิว และลบเลือนริ้วรอย ปัจจุบัน Panya Natural กลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่มีส่วนผสมจากมะรุมในประเทศไทยและมีเป้าหมายที่จะพัฒนาแบรนด์ โดยการสร้างมะรุมให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อขยายตลาดไปยังต่างประเทศและส่งต่อคุณค่าของสกินแคร์จากสมุนไพรไทยโดยคนไทย
แบรนด์ “ปาเต๊ะ” แบรนด์ร้านอาหารที่มีประวัติยาวนาน 26 ปี มุ่งเน้นการสร้างสรรค์ สร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าประทับใจ โดยจุดเริ่มต้นมาจากความฝันของครอบครัวที่อยากทำร้านอาหารที่มีความสุข และเชื่อว่าอาหารที่ดีไม่ได้มีแค่รสชาติ แต่ยังรวมถึงบรรยากาศและความรู้สึกอบอุ่นที่ลูกค้าได้รับ โดย กฤติณ ประนุช เจนเนอเรชั่นที่สองเป็นผู้สานต่ออยู่ ณ ขณะนี้ และด้วยบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้แบรนด์ต้องปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยต้องการให้ปาเต๊ะยังคงเป็นที่รักและเข้าถึงใจลูกค้าทั้งปัจจุบันและอนาคต โดยใช้กลยุทธ์การทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการปรับปรุงแบรนด์ให้เข้าถึงใจผู้คนได้อย่างแท้จริง
แบรนด์ “ไทยเชฟ” ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 มีจุดเริ่มต้นจากความตั้งใจที่จะแบ่งปันรสชาติอาหารไทยให้กับคนทั่วโลก โดยเริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและเปิดตัวครั้งแรกในกัมพูชา ปัจจุบันไทยเชฟได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอทางเลือกที่ง่ายและสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคในการลิ้มลองรสชาติอาหารไทย เนื่องจากแบรนด์มีอายุมากกว่า 20 ปี จึงต้องการรีแบรนด์ให้ภาพลักษณ์ดูร่วมสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) จึงไม่หยุดนิ่งที่จะค้นหาแนวทางการพัฒนาตัวตนของแบรนด์ มองโอกาสและศักยภาพที่จะช่วยส่งเสริมในเชิงการตลาดและแบรนด์ดิ้ง เพื่อให้ได้แนวคิดและทิศทางที่ชัดเจนในการสร้างคาแรกเตอร์สินค้าให้เกิดภาพจำมากยิ่งขึ้น
“แบรนด์ “JOLA” หรือ Instant Jelly Mix for Dogs เริ่มต้นจากความต้องการสร้างแบรนด์ที่สามารถส่งมอบช่วงเวลาแห่งความสุข และดีต่อสุขภาพ (Joyful Nutritious Moments) ให้กับสุนัขสูงวัยซึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของครอบครัวโดย เพียงเพลง ขจรวิทย์ และ นินนาท ศิริปุณย์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์เล็งเห็นโอกาสในตลาดขนมสุนัขสูงวัยในประเทศไทยที่มีมูลค่า 2.7 พันล้านบาท จึงพัฒนา JOLA ขึ้นมา ซึ่งให้วิตามิน พรีไบโอติกส์ และเพิ่มการได้รับน้ำต่อวัน เหมาะสำหรับสุนัขที่ป่วย เนื่องจากมีแคลอรีต่ำ โปรตีนต่ำ และไขมันต่ำ ทานได้สะดวกเพียงเติมน้ำอุ่นและแช่ตู้เย็น 20 นาที ซึ่งแบรนด์สามารถสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวของความสัมพันธ์ (bonding) ออกได้เป็นอย่างดี และสามารถดึงมาเป็นหนึ่งในจุดขายหลัก ตลอดจนปรับกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อให้ลูกค้ารักแบรนด์มากยิ่งขึ้น
แบรนด์ “ปลาไทยห้าดาว” แบรนด์แป้งมันสำปะหลังและสาคูที่ถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1985 ปัจจุบัน ปรินทร์ และ ปภาดา กาญจนชูศักดิ์ สองพี่น้องผู้เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ได้สานต่อธุรกิจและต้องการขยายตลาดส่งออกพร้อมพัฒนาแบรนด์ใหม่สำหรับตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคชาวต่างชาติ นั่นคือแบรนด์ Sunny’s Farm ที่จะมาตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างออกไป และเนื่องจากตลาดแต่ละภูมิภาคมีความชอบที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อการออกแบบแบรนด์และการสื่อสารโดยตรง แบรนด์จึงเริ่มมองหาทิศทางและพัฒนาตัวตนของแบรนด์ใหม่ ทั้งในเชิงแนวคิดและองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้ตรงจุดมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนา CI และออกแบบภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การตลาดในอนาคต
สำหรับโครงการ IDEA LAB Season 8 เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง และสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนจาก DITP อย่างไรก็ตามการค้นพบทิศทางที่ชัดเจนของแบรนด์สู่การวางกลยุทธ์สร้างแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการพัฒนาแบรนด์เท่านั้น สิ่งที่สำคัญคือการนำกลยุทธ์ไปปรับใช้และต่อยอดให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ IDEA LAB ในปีต่อไป สามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Facebook : DITP Value Creation
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา