ต้านไม่ไหว สุดท้ายต้องปลด
Disney ประกาศปลดพนักงานกว่า 28,000 คนในสหรัฐอเมริกา โดยให้เหตุผลว่า ธุรกิจสวนสนุกและรีสอร์ตได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิดที่ทำให้ต้องปิดบริการเป็นเวลานานหลายเดือนติดต่อกัน โดยพนักงานที่ถูกปลดในครั้งนี้เป็นพนักงานพาร์ทไทม์สูงถึง 67%
Josh D’Amaro หัวหน้าฝ่ายสวนสนุกของ Disney ระบุว่า การประกาศปลดพนักงานในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่จำเป็นต้องทำเพื่อประคับประคองบริษัท และเนื่องจากวิกฤตโควิดได้ส่งผลกระทบที่ยืดเยื้อ เราจึงไม่สามารถบริหารดูแลพนักงานได้เต็มรูปแบบดังเดิมภายใต้การดำเนินธุรกิจที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดหลากหลายด้าน
การประกาศปลดพนักงานในสวนสนุกถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับ Disney เนื่องจากธุรกิจในส่วนนี้มีสัดส่วนรายได้เมื่อเทียบกับทั้งบริษัทสูงถึง 37% หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของรายได้ของทั้งบริษัท โดยมีมูลค่าอยู่ที่ราว 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม หลังจากประกาศนี้ได้เผยแพร่ออกไป หุ้นของ Disney ร่วงลงเกือบ 2%
หากย้อนกลับไปดูตั้งแต่ต้นปี 2020 ที่โควิดเริ่มพ่นพิษ งบการเงินของ Disney ในไตรมาส 2 ขาดทุนถึง 1 พันล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากธุรกิจสวนสนุก รีสอร์ต และเรือสำราญหายไปมากที่สุด ตามมาด้วยไตรมาสที่ 3 ของปีที่วิกฤตลากยาวทำให้บริษัทขาดทุนพุ่งไปถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา