ปัจจุบันหลายคนอาจจะต้องการออมเงินเพื่อจุดประสงค์หรือเป้าหมายชีวิตบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว, ซื้อสินค้าที่อยากได้, เป็นเงินใช้ในยามฉุกเฉิน, เก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณ เป็นต้น Digit เป็นบริการฟินเทคที่จะช่วยออมเงินให้ผู้ใช้ได้อัตโนมัติ ซึ่งวันนี้ทีมงาน Brand Inside จะพาไปรู้จักกับ Digit กัน

Digit เกิดมาเพื่อจุดประสงค์ด้านการออมเงินเป็นหลัก โดยวิธีใช้งานคือผู้ใช้จะต้องเชื่อมบริการ Digit เข้ากับบัญชีธนาคาร ซึ่งทุก ๆ วัน Digit จะประเมินลักษณะการใช้จ่ายและหักเงินเล็กน้อยจากบัญชีธนาคารเข้ามาเก็บไว้ในบัญชี Digit โดยจะพยายามให้เหลือเงินเท่าที่ผู้ใช้จะยังคงใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้

บัญชีของ Digit มีระบบรักษาความปลอดภัยโดยใช้กุญแจ 128 บิตระดับเดียวกับธนาคาร รวมถึงมีการรับประกันเงินฝากจาก FDIC หรือสถาบันคุ้มครองเงินฝากแห่งสหพันธรัฐด้วย ซึ่ง Digit มีระบบจ่ายแคชแบ็ค 1% ต่อปีสำหรับยอดเงินที่เก็บไว้กับ Digit โดยแคชแบ็คนี้จะจ่ายทุก 3 เดือน

ในช่วงแรก Digit ใช้วิธีการส่ง SMS รายงานการออมเงินให้ผู้ใช้ และผู้ใช้ก็สามารถสั่งถอนจากบัญชี Digit เข้าบัญชีธนาคารได้โดยการส่ง SMS เช่นกัน พร้อมแดชบอร์ดบนเว็บไว้รายงานผู้ใช้ให้เห็นภาพในการออมเงินมากยิ่งขึ้น

ในช่วงหลัง Digit เริ่มขยายบริการจากบนเว็บและ SMS โดยมีแอพบน iOS และ Android รวมถึงแชทบอทใน Facebook Messenger ซึ่งในตอนแรกแอพของ Digit ก็ยังคงเน้นใช้ระบบส่งข้อความ (เนื่องจาก Digit เริ่มต้นโดยการใช้ระบบส่งข้อความ) แต่ในช่วงหลังก็เริ่มปรับปรุงเน้นการแสดงผลข้อมูลต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ต้องคอยพิมพ์ถามแชทบอทตลอดเวลา

Digit ยังมีฟีเจอร์ Boost เพื่อช่วยจัดการความสำคัญของหนี้หรือเป้าหมายในการเก็บเงินว่า อะไรสำคัญกว่าอะไร Digit จะทำให้บรรลุเป้าหมายนั้น ๆ ก่อน

ล่าสุด Digit ก็เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Digit Pay เป็นฟีเจอร์ช่วยผู้ใช้ในการปิดหนี้บัตรเครดิต คือผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อบัญชีบัตรเครดิตเข้ากับ Digit ได้โดยตรง Digit จะช่วยเก็บออมเงินตามเป้าหมายและค่อย ๆ จ่ายเงินเพื่อปิดหนี้บัตรเครดิตให้โดยตรง ไม่ต้องคอยถอนจากบัญชี Digit มาเข้าบัญชีธนาคารและจ่ายปิดหนี้อีกต่อไป

ปัจจุบัน Digit ให้บริการฟรีใน 100 วันแรก หลังจากนั้นจะคิดค่าบริการที่ 2.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งเมื่อก่อน Digit ให้บริการฟรี โดยซีอีโอ Ethan Bloch เผยว่าโมเดลเก็บเงินถือเป็นโมเดลที่เหมาะกับบริษัทมากกว่าการใช้โฆษณาหรือไปทำบริการทางการเงินที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้อยากใช้

ในอนาคต Digit ก็จะยังคงเพิ่มบริการมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการเก็บเงินของผู้ใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ Digit คงจะยังไม่ทำเร็ว ๆ นี้คือบริการการลงทุน ซึ่งซีอีโอ Bloch เคยกล่าวไว้ตอนเปิดตัวบริการ Digit Pay ว่า Digit เกิดมาเพื่อทำให้สุขภาพทางการเงินเป็นเรื่องง่าย ๆ แม้ว่าการลงทุนจะเป็นตัวช่วยผู้ใช้ในการทำเงินที่มากขึ้น แต่ในมุมมองของเขาแล้วมันไม่ใช่เป้าหมายหลักของสุขภาพทางการเงิน ซึ่งตอนนี้เป้าหมายหลักของ Digit คือการเน้นที่ “เงินออม” และ “บัตรเครดิต” เท่านั้น

สรุป

การออมเงินเป็นเรื่องสำคัญ Digit เป็นหนึ่งในบริการอัตโนมัติที่ช่วยในการออมเงินเป็นไปตามเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง Digit น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินแต่ไม่มีเวลาคอยจัดการ

เนื่องจากวงการฟินเทคยังแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง โดยบริการนอกจาก Digit ก็มี Qapital, Acorns, Wealthfront เป็นคู่แข่งที่ให้บริการที่มีเป้าหมายเดียวกันคือเน้นเรื่องการออมเงินด้วยเช่นกัน

ที่มา – TechCrunch (1), (2), Digit, Digit Press

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา