เปิดอก “ดีเจ โกห์” แม่ทัพใหญ่ Samsung กับความผิดพลาด และแผนดึงลูกค้ากลับมาจากแบรนด์จีน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแข่งขันของผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะ Smartphone นั้นดุเดือดสุดๆ ยิ่งแบรนด์จีนทั้งหลายผงาดครองใจผู้บริโภคด้วยราคา และสเปกสุดคุ้ม แล้วอย่างนี้ยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung ต้องทำอย่างไรล่ะ

Samsung
ดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคมของ Samsung

ยอมรับความผิดพลาดที่ต้องสูญเสียลูกค้า

แม้ Samsung จะยังเป็นแบรนด์ผู้จำหน่าย Smartphone ได้มากที่สุดโลกอยู่ตามข้อมูลของบริษัทวิจัย IDC แต่ Samsung ก็สูญเสียส่วนแบ่งในตลาดนี้อย่างต่อเนื่องให้กับแบรนด์จีนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Huawei, Xiaomi, OPPO และอื่นๆ โดยเฉพาะกับ Huawei ที่ชิงส่วนแบ่งจนแซง Apple ขึ้นมาเป็นเบอร์สองของตลาดนี้ได้

“ยอมรับว่าแบรนด์จีนในตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว ผ่านผลงานที่ดีในหลายประเทศ และอาจเกิดจากความผิดพลาดของ Samsung เองที่ปล่อยให้ลูกค้าที่เคยใช้ของเราไปใช้แบรนด์เหล่านี้ ดังนั้นจากนี้ไป Samsung จะตั้งใจทำอย่างเต็มที่มากขึ้น เพื่อดึงลูกค้าทั้งหมดกลับมา” ดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคมของ Samsung กล่าว

smartphone
ภาพรวมตลาด Smartphone ทั่วโลก // อ้างอิง IDC

สำหรับกลยุทธ์ที่ Samsung จะพยายามดึงลูกค้าที่เคยใช้ Smartphone ของแบรนด์กลับมาอีกครั้งก็ประกอบด้วยการใส่นวัตกรรมต่างๆ พร้อมกับยกระดับประสบการณ์ใช้งานในหลายแง่มุมให้ดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้มาจากการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างเข้มข้น รวมถึงเรียนรู้ข้อดีของคู่แข่งในปัจจุบันเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ด้วย

ตลาด Smartphone ที่อิ่มตัว และเติบโตลำบาก

“ตอนนี้ตลาด Smartphone ในระดับโลกนั้นค่อนข้างอิ่มตัว และเติบโตลำบาก โดยเฉพาะกับความต้องการของผู้บริโภคใน Smartphone รุ่น Hi-End ที่ลดลง ทำให้มันเป็นอีกโจทย์ที่ Samsung ต้องข้ามผ่านนอกจากตัวคู่แข่งจากจีนที่ตีตื่นขึ้นมาเรื่อยๆ และผมเชื่อว่าใครที่เข้าใจลูกค้า ใครที่เตรียมพร้อมกับอนาคตมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ”

Samsung A80
Samsung A80

ทั้งนี้การเดินหน้าแข่งขันในตลาด Smartphone ของ Samsung จะเดินไปตาม Roadmap ไม่ว่าจะเป็นการปรับกลยุทธ์ Smartphone รุ่นระดับกลางที่ถูกออกแบบให้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เคยติดตั้งในรุ่นใดๆ มาก่อน เพราะปกติแล้วนวัตกรรมล่าสุดมักติดตั้งในรุ่น Hi-End ก่อนขยับลงมาติดตั้งในรุ่นระดับกลาง และล่างตามลำดับ

ตัวอย่างที่ดีคือรุ่น A80 Smartphone ระดับกลางที่มาพร้อมกับกล้องหมุนได้ 3 เลนส์ โดยเลนส์หลักมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ทำให้ตัวกล้องเป็นได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ถือเป็น Smartphone รุ่นแรกของ Samsung ที่มีเทคโนโลยีนี้ รวมถึงการออกแบบอย่างนี้ยังทำให้หน้าจอไม่มีรอยบากอีกด้วย

Samsung
ดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคมของ Samsung

5G, IoT และ Gen Z คือตัวแปรใหม่ในการทำตลาด

“A80 คือ Smartphone ระดับกลางที่ Samsung ต้องการตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ หรือ Gen Z ที่ชอบถ่ายภาพ และชอบแชร์ แต่มีงบประมาณไม่ถึงรุ่น Hi-End เพราะตลาดนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว ยิ่งใน 2-3 ปีข้างหน้า คนรุ่นใหม่ก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการเร่งทำตลาดกับคนกลุ่มนี้จึงจำเป็นสำหรับเรา”

ขณะเดียวกันด้วยโลกโทรคมนาคมที่กำลังจะถูกหมุนด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง 5G รวมถึง IoT และ AI ซึ่งทั้งหมดนี้มันแตกต่างกับยุค 4G อย่างมาก ผ่านความเร็วเพิ่มขึ้น 20 เท่า และมีความหน่วงของสัญญาณที่น้อย ดังนั้นโลกของโทรคมนาคมยุคใหม่จะเปลี่ยนแปลงไปมาก และเกิดการเชื่อมต่อระหว่าง Machine to Machine มากกว่าเดิม

Galaxy S10
Samsung Galaxy S10

“เมื่อโลกโทรคมนาคมเปลี่ยน Samsung ก็ต้องปรับตัว ซึ่งปัจจุบันเราเป็น Total Company ที่มีทั้งระบบเน็ตเวิร์ก, ชิปเซ็ต, ดีไวซ์ และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มันตอบโจทย์การเข้าสู่ 5G และ AI ได้ ยิ่งตอนนี้ที่เกาหลีใต้เริ่มให้บริการ 5G แล้ว Samsung ก็มีดีไวซ์ที่รองรับ และเตรียมขยายไปตลาดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง”

ตลาดไทยยังสำคัญสำหรับ Samsung เสมอมา

ในทางกลับกัน “ดีเจ โกห์” มองว่า 5G ในประเทศไทยอาจได้เห็นกันในช่วงสิ้นปีนี้ หรือต้นปีหน้าก็ได้ ส่วนแนวโน้มการทำตลาดในประเทศไทยนั้นยังค่อนข้างสำคัญสำหรับบริษัทอยู่ เพราะปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำของตลาดนี้ แต่ถึงอย่างไร Samsung ก็พร้อมปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ในไทยเช่นเดียวกัน

5G
การใช้งาน 5G

“อีก 2-3 ปีข้างหน้าคนรุ่นใหม่จะเป็นส่วนใหญ่ของการใช้งาน Smartphone ในไทย เช่นเดียวกับประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงไม่แปลกที่ Samsung ส่ง Smartphone ตระกูล A มาทำตลาดถึง 6 รุ่น โดยแต่ละรุ่นราคาต่างกัน 50-70 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,600-2,200 บาท) เพื่อรองรับคนรุ่นใหม่ในทุกระดับ”

ปัจจุบัน “ดีเจ โกห์” ทำงานใน Samsung มาทั้งหมด 35 ปี มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ Smartphone ของ Samsung ทุกช่วง ไม่ว่าจะเป็นช่วงรุ่งเรืองของตระกูล Galaxy S และ Galaxy Note จนถึงการถูกผู้เล่นจากจีนเข้ามาแข่งขันในตลาดจนเป็นคู่แข่งที่มองข้ามไม่ได้ นอกจากแบรนด์จากสหรัฐอเมริกาที่แข่งขันมาตั้งแต่แรก

สรุป

ต้องยอมรับว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่สวยหรูของ Samsung อีกต่อไปแล้ว เพราะแบรนด์จีนทั้งหลายตอนนี้แข็งแกร่ง และสามารถตีตลาดใหม่ๆ ได้แตกจนผู้เล่นหน้าเก่าไม่สามารถยึดหัวหาดได้อีกต่อไป ดังนั้นต้องจับตาดูว่าการปรับกลยุทธ์ของ Samsung ครั้งนี้จะส่งผลให้แบรนด์กลับมาผงาดได้อีกครั้งหรือไม่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา