เปิดเบื้องหลังดีลรถยนต์ไร้คนขับระหว่าง Honda กับ GM และ Waymo ของ Alphabet ที่ถูกเมิน

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา Honda ได้ประกาศลงทุนในบริษัทลูกของ GM อย่าง Cruise กว่า 2,750 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 90,000 ล้านบาท) เพื่อเดินหน้าเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ แต่กว่าดีลนี้จะเกิดขึ้นมันมีเบื้องหลังที่สุดจะซับซ้อน

Honda

ยอมเป็นเบี้ยให้ Waymo จูงทุกอย่าง

จริงๆ แล้วก่อนหน้าดีลพัฒนารถยนต์ไร้คนขับระหว่าง Honda กับ GM Cruise บริษัทลูกที่ดูแลเรื่องนี้ของกลุ่ม GM จะเกิดขึ้น ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นนั้นก็เกือบเซ็นสัญญากับหน่วยธุรกิจรถยนต์ไร้คนขับของ Alphabet อย่าง Waymo แล้ว เพราะเคยซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวร่วมกันอยู่ตั้งแต่ปี 2559

แต่เหมือนว่า Waymo ต้องการเป็นใหญ่ในโครงการนี้ โดยเฉพาะการไม่เปิดให้ Honda เข้าถึงเทคโนโลยีไร้คนขับ แถมบีบให้ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นเป็นผู้ดูแลด้านยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก เพื่อให้ Waymo มาติตั้งระบบรถยนต์ไร้คนขับ ทั้งๆ ที่ Honda เองก็เพิ่งลงทุนเรื่องนี้อย่างจริงจังไม่นาน

Waymo's fully self-driving Chrysler Pacifica Hybrid minivan on public roads
รถยนต์ของ Waymo

แม้มันจะเหมือนว่า Waymo เป็นมันสมองที่สั่งการให้ Honda ทำอะไรก็ได้ แต่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นก็ยอมทำตาม ทั้งการเร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถแข่งขันกับ Model 3 ของ Tesla ได้ รวมถึงการปรับเทคโนโลยีให้แบตเตอรี่นั้นตอบโจทย์การทำงานของเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งสุดท้ายแล้ว Honda ก็เห็นทางสว่างเสียที

พบกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นพาร์ทเนอร์จริงๆ

นั่นก็เพราะระหว่างที่ Honda กำลังหาช่องทางพัฒนาแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ก็ได้ไปเจรจากับกลุ่ม GM ที่เคยร่วมพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเทคโนโลยี Fuel-Cell มาก่อนหน้านี้ ยิ่งทางผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐอเมริกาเริ่มทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Bolt แถมมีแผนทำตลาดอีกกว่า 20 รุ่นในปี 2566 การที่ Honda จะให้ GM ช่วยก็น่าจะดีไม่น้อย

Cruise สตาร์ตอัพรถยนต์ไร้คนขับ ที่สุดท้ายขายให้ GM

ดังนั้นในเดือนก.ค. 2561 ทั้งคู่จึงประกาศความร่วมมือเพื่อพัฒนาเซลล์ กับชุดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และกลายเป็นที่มาของการเจรจาลับๆ เกี่ยวกับการร่วมพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ เพราะ GM ก็ได้รับเงินลงทุนกว่า 2,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกลุ่ม Softbank เพมื่อเดือนพ.ค. 2560 แสดงให้เห็นว่าทางกลุ่มจริงจังกับเรื่องนี้มาก

ประกอบกับทาง GM เชิญวิศวกรของ Honda ไปร่วมทอดลองเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ และมีโอกาสเข้าถึงระบบเชิงลึก ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น Honda ไม่เคยได้รับสิทธิ์จาก Waymo เลย จึงไม่แปลกที่เมื่อพบกับพาร์ทเนอร์ที่ให้ความรู้สึกเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจจริงๆ Honda ก็ยอมลงทุนใน GM Cruise เพื่อเดินหน้าเทคโนโลยีด้วยกัน

ตัวอย่างแท็กซี่ไร้คนขับในประเทศญี่ปุ่น

ถึงถูกถีบออกไปก็ไม่ได้เสียใจอะไรมาก

ขณะเดียวกันการลงทุนของ Honda กว่า 90,000 ล้านบาทนั้น ค่ายรถญี่ปุ่นก็ได้หุ้นใน GM Cruise ในสัดส่วน 5.7% มาด้วย และทำให้มูลค่ากิจการ GM Cruise พุ่งขึ้นไปถึง 14,500 ล้านดอลลาร์ แต่เชื่อว่า Waymo เองก็คงไม่ได้เสียใจอะไรนัก เพราะบริษัทแม่อย่าง Alphabet นั้นมีเงินสดมหาศาล จึงไม่มีความจำเป็นต้องระดม หรือขายหุ้นใดๆ

ยิ่งทาง Morgan Stanley นั้นวิเคราะห์ว่า มูลค่ากิจการของ Waymo น่าจะเกิน 1 แสนล้านดอลลาร์แน่ๆ ดังนั้นการลงทุนในหุ้นเล็กๆ ก็จะมีค่ามหาศาลแล้ว และมันอาจดูแพงในมุมของ Honda ด้วย ดังนั้นการลงทุนใน GM Cruise ก็น่าจะ Win-Win มากกว่า เพราะทาง Honda ก็ได้แบตเตอรี่ที่ดี ส่วน GM ก็มีโอกาสเปิดตลาดในญี่ปุ่น

ประกอบกับ Waymo เองก็มีพาร์ทเนอร์อื่นๆ อยู่แล้วเช่นกลุ่ม Fiat Chrysler Automobiles และ Jaguar Land Rover ของกลุ่ม Tata Motors ที่พร้อมส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของ Chrysler รุ่น Pacifica กับ Jaguar รุ่น I-Pace เพื่อไปติดตั้งเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับกว่า 80,000 คันแล้ว ดังนั้นถึงไม่ได้ Honda ก็คงไม่เสียหลาย

สรุป

Waymo นั้นเรียกว่าหล่อเลือกได้ก็คงไม่แปลกนัก เพราะนอกจากจะมีเงินสดมหาศาลที่พร้อมจะลงทุนจาก Alphabet แล้ว ปัจจุบันยังถูกมองว่าเป็นผู้นำในเรื่องเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับด้วย ดังนั้นการปล่อยดีลกับ Honda ให้หลุดมือไปก็คงสบายๆ ส่วน Honda เองที่ไปจับมือกับ GM ก็คงได้ประโยชน์กันทั้งสองฝั่ง และเดินหน้าคู่กันได้ดี

อ้างอิง // Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา