เปลี่ยนชื่ออ่าว ปิดพรมแดน เลื่อนแบน TikTok บอกโลกนี้มีแค่ชาย-หญิง 2 เพศเท่านั้น

เป็นประธานาธิบดีแล้ว จะทำอะไรก็ได้!

จัดหนักผู้อพยพ

เริ่มที่นโยบายผู้อพยพก่อนเลย..ทรัมป์ประกาศว่าอำนาจอธิปไตยของสหรัฐอเมริกากำลังถูกโจมตี ประเทศชาติกำลังตกอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน นั่นหมายความว่าทรัมป์กำลังเปรียบตัวเองให้เป็นผู้นำในภาวะสงครามอีกแล้ว โลกเดือดกว่าเก่าแน่นอน อย่างน้อยก็เพื่อนบ้านทรัมป์กระทบก่อนเป็นรายแรก “เม็กซิโก” นั่นเอง ทรัมป์รื้อฟื้นคำสั่งสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกอีกแล้ว

ตามด้วยการปิดพรมแดน เพื่อป้องกันการไหลเวียนของยาเสพติดผิดกฎหมาย การลักลอบขนคนโดยผิดกฎหมาย ซึ่งก็รวมถึงการมีวีซ่าชั่วคราวแบบผิดกฎหมาย

ยุติสัญชาติพลเมืองตามสิทธิการเกิด ทรัมป์ยกเลิกสิทธิที่เด็กจะได้สัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติหากเกิดในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเกิดจากผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายหรือวีซ่าชั่วคราวก็ตาม

กำหนดให้แก๊งค้ายาเสพติดจัดเป็นองค์การก่อการร้าย แถมยังเพิ่มแก๊ง MS-13 ที่มาจากเอลซัลวาดอร์ (เรียกว่า Salvadorn) รวมอยู่ในองค์การก่อการร้ายด้วย

นโยบายแข็งกร้าวต่อเม็กซิโก ยังเป็นเหมือนทรัมป์ยุค 1.0 ทรัมป์จะใช้นโยบายอยู่ในเม็กซิโก (Remian in Mexico) ทำให้ผู้ลี้ภัยที่ไม่ใช่ชาวเม็กซิกันขณะรอฟังการพิจารณาคดีต้องเดินทางกลับประเทศประมาณ 70,000 คน

ทรัมป์ยังยุตินโยบายจับและปล่อย (catch and release) ที่ปล่อยให้ผู้อพยพอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ได้ขณะที่รอฟังพิจารณาคดี และยังปิดโอกาสที่ไบเดนเคยมีให้สำหรับคนที่อพยพมาจากคิวบา เฮติ นิคารากัว และเวเนซุเอลาให้บินมาสหรัฐฯ ได้กว่า 30,000 คน

ทรัมป์ยังมีคำสั่งให้นำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้อีก โดยเฉพาะกับคนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายและก่ออาชญากรรมร้ายแรง ตามด้วยระงับโครงการตั้งถิ่นฐานของผู้ลี้ภัย

Donald Trump

พอแล้วรักษ์โลก รักตัวเองดีกว่า

ทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงปารีส (Paris agreement) ก่อนหน้านี้ก็ถอนตัวออกไปในปี 2017 แต่ไบเดนเอากลับเข้ามาใหม่

ด้านพลังงาน ทรัมป์ประกาศว่าเป็นเหตุฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ และให้สัญญาว่าจะสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้น และจะเจาะน้ำมันเพื่อหาพลังงานเชื้อเพลิงเพิ่ม และยังเตรียมปลดล็อคพลังงานเชื้อเพลิง Alaska ด้วย

ทรัมป์ยุติ Green New Deal ที่มีมาตั้งแต่สมัยไบเดน ซึ่งเป็นมาตรการสนับสนุนให้เกิดการจ้างงาน Green Job ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการควบคุมอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงที่เคยจำกัดมลพิษ

ถอนตัวจาก WHO

ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเรียบร้อย เดินหน้าเริ่มกระบวนการถอดสหรัฐฯ​ ออกจากองค์การอนามัยโลกอีกครั้ง หลังจากที่ Biden กลับเข้าไปใหม่

โลกนี้มีแค่ 2 เพศ

ความหลากหลายทางเพศที่มีก่อนหน้านี้จบสิ้นไปแล้วเรียบร้อย ทรัมป์ประกาศเลยว่าสหรัฐฯ จะยอมรับเพศสภาพแค่สองเพศเท่านั้นก็คือเพศชายและเพศหญิง ที่ถือเป็นฐานรากของเพศสภาพทั้งปวงอย่างที่มิอาจปฏิเสธได้

สูญสิ้นแล้ว DEI ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม

ทรัมป์ระงับโครงการ DEI หรือ diversity, equity และ inclusion ที่ใช้ภายในรัฐบาลกลางแล้วเรียบร้อย เช่น การตัดงบสนับสนุนโครงการ เป็นต้น

TikTok ยังใช้ประโยชน์ได้อยู่ เผื่อคะแนนนิยมจะเพิ่มขึ้น

ทรัมป์มีคำสั่งเลื่อนแบนแพลตฟอร์ม TikTok ในสหรัฐฯ ออกไป 75 วัน หลังถูกปิดก่อนวันสาบานตนเพียง 1 วัน ทรัมป์เองก็เป็นตัวตั้งตัวตีในการสั่งแบน TikTok ด้วย ก่อนจะเปลี่ยนใจหลังมีคอนเทนต์ของตัวเองในแพลตฟอร์มที่มียอดวิวทะลุพันล้านวิว หลังทรัมป์มีคำสั่งเลื่อนการแบนก็มีสองทางที่ TikTok จะต้องเลือกหลังจากนี้ คือ ขายมันออกไป หรือไม่ก็ปิดมันซะ

นิรโทษกรรม เหตุก่อจลาจลในปี 2021 (กลุ่มคนที่เคยหนุนทรัมป์ นั่นเอง)

ทรัมป์ประกาศนิรโทษกรรมให้ผู้สนับสนุนเขาเกือบ 1,600 คนที่เคยถูกจับกุมในช่วงก่อจลาจลเพื่อสนับสนุนเขา และยังเซ็นคำสั่งยกเลิกสมาชิกกลุ่มขวาจัดอย่าง Proud Boys และ Oath Keepers ที่เกี่ยวข้องกับการจลาจลเมื่อปี 2021 ด้วย

เดินหน้าปฏิรูปรัฐบาล 

ทรัมป์เซ็นคำสั่งตั้งกระทรวง DOGE หรือกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล ที่ Elon Musk จะเข้ามานั่งเป็นเจ้ากระทรวงเพื่อดูแลการทำงานของหน่วยงานรัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แข่แข็งการจ้างงานพนักงานใหม่ ยกเว้นหน่วยงานทหารและอีกหลายหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การบริหารของทรัมป์ เรียกพนักงานรัฐกลับเข้าทำงานในออฟฟิศ ไม่อนุญาตให้ Work from home อีกต่อไป

ยกเลิกระบบเซ็นเซอร์จากรัฐ สามารถมีเสรีภาพในการพูด ยุติอาวุธของรัฐบาลในการต่อต้านฝ่ายสนับสนุนทางการเมือง จากที่มีการใช้กฎหมายบังคับที่หลากหลาย มีการใช้หน่วยข่าวกรองภายใต้ยุคใบเดน ก็เปลี่ยนเป็นปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

สวนกลับนโยบายไบเดน

จากที่เคยให้ความช่วยเหลือนานาประเทศในฐานะประเทศมหาอำนาจ ทรัมป์ก็เปลี่ยนเป็นยุติการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายต่างประเทศคือ “America-First”

จากที่ไบเดนเคยเอาคิวบาออกจากลิสต์ประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายไปแล้ว ทรัมป์ก็จะย้อนกลับนโยบายนี้อีกด้วยการเอามาเข้าลิสต์กลุ่มเดิม แถมยังเตรียมกลับมาคว่ำบาตรเวเนซุเอลาอีก ซึ่งก็ถือเป็นประเทศที่ทรัมป์มุ่งเป้า

เศรษฐกิจ 

ทรัมป์เซ็นคำสั่งจัดการเรื่องค่าครองชีพ ให้ทุกหน่วยงานหาทางลดต้นทุนเรื่องบ้าน เรื่องสาธารณสุข และปัจจัยสำคัญด้านครัวเรือน ทั้งราคาอาหารและพลังงาน ขอให้ทุกหน่วยงานส่งรายงานภายใน 30 วัน

เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโก และภูเขาเดนาลิในอลาสกา

เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกให้เป็นอ่าวอเมริกาและภูเขาเดนาลิในอลาสกา (Denali) เป็นภูเขา McKinley เพื่อให้เกียรติประธานาธิบดีคนที่ 25 ของสหรัฐอเมริกาผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายภาษีที่ทรัมป์โปรดปราน

ที่มา – BBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา