นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ก็เป็นอีกตลาดที่ถูกจับตาในอุตสาหกรรมรถยนต์ และนั่นก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของกลุ่ม Daimler ที่ส่งรถบรรทุกไฟฟ้าลงมาแข่งขันในตลาด
Daimler กับการทำตลาดรถบรรทุกไฟฟ้าสองรุ่น
หลังจาก Tesla เปิดตัว Semi รถบรรทุกแบบหัวลากที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเมื่อสิ้นปี 2560 ทำให้วงการรถบรรทุกต้องขยับตัวกันอีกครั้ง เพราะถ้าไม่มีพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าตามแบรนด์น้องใหม่ ก็มีโอกาสที่จะปล่อยส่วนแบ่งในอนาคตให้กับ Tesla ไปอย่างง่ายดาย ซึ่งหนึ่งในผู้นำตลาดอย่างกลุ่ม Daimler นั้นยอมไม่ได้อยู่แล้ว
สำหรับการต่อกรกับคู่แข่งน้องใหม่นั้น Daimler ตัดสินใจเปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้าแบรนด์ Freightliner ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อยคือ eCascadia ที่มากับรูปแบบรถบรรทุกหัวลากที่มีคุณสมบัติ และการขับเคลื่อนใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง Semi ของ Tesla เพียงแต่วิ่งได้ไกลราว 400 กม. ซึ่งน้อยกว่าคู่แข่งที่ทำได้ 800 กม. หลังจากชาร์จเต็ม
ส่วนอีกรุ่นคือ eM2 106 รถบรรทุกขนาดกลาง เหมาะกับการขนส่งในระดับท้องถิ่น หรือก่อนถึงเป้าหมาย (Last-Mile Delivery) มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 325 กิโลวัตต์ชม. ให้กำลังขับเคลื่อน 480 แรงม้า วิ่งได้ 370 กม. หลังจากชาร์จเต็ม และใช้เวลา 60 นาทีเพื่อชาร์จได้ 80% ของความจุซึ่งวิ่งได้ 300 กม.
Martin Daum คณะกรรมการกลุ่ม Trucks and Buses ของ Daimler เล่าให้ฟังว่า ทางกลุ่มตั้งเป้าเป็นผู้นำในเรื่องรถบรรทุกไฟฟ้า และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ในการพัฒนานวัตกรรมของรถบรรทุกให้ดีกว่านี้ โดยรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งสองรุ่นนี้จะส่งมอบให้กับพาร์ทเนอร์ภายในปี 2561 นี้
สรุป
กลุ่ม Daimler ไม่ได้เน้นผลิตรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ของตัวเองเท่านั้น เพราะแบรนด์ในกลุ่มอย่าง Mitsubishi FUSO ก็เดินหน้าผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การเร่งจำหน่ายรถบรรทุกไฟฟ้าทั้งสองรุ่นนั้นก็เป็นการตัดหน้า Semi ของ Tesla ที่จะส่งมอบให้กับผู้สั่งภายในปี 2562 ด้วย
อ้างอิง // Electrek
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา