ถือเป็นครั้งแรกของ “คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าของสิงคโปร์” หรือ Competition Commission of Singapore (CCS) ทำผลงาน หลังออกมาตรชั่วคราวเพื่อหยุดดีล Grab-Uber เพราะกลัวไม่เกิดการแข่งขัน
หยุดควบรวม-ห้ามเปิดเผยข้อมูลซึ่งกันและกัน
การออกมาตรการชั่วคราวของ CCS ครั้งนี้ทำให้การควบรวมกิจการระหว่าง Grab กับ Uber ในประเทศสิงคโปร์ต้องหยุดลงทันที เพราะทางการเป็นห่วงเรื่องการไม่ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจบริการร่วมเดินทาง โดยหลังจากมาตรการนี้ออกมาก็บังคับให้ Grab และ Uber ต้องให้บริการในอัตราเหมือนก่อนดีลนี้จะเกิดขึ้น
ขณะเดียวกันมาตรดังกล่าวยังบังคับให้ Grab และ Uber ห้ามพยายามทำอะไรที่ชี้ไปในทิศทางที่เกี่ยวกับการควบรวมกิจการในประเทศสิงคโปร์อีกด้วย นอกจากนี้ทางคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าของสิงคโปร์ยังบังคับให้ Grab และ Uber ไม่มีสิทธิ์แลกเปลี่ยนข้อมูลลับเฉพาะ เช่นราคา, ลูกค้า และผู้ขับในระบบเช่นกัน
ทำให้การออกจากตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Uber ต้องล่าช้าไปอีก เพราะต้องออกจากตลาดนี้เพื่อไปเน้นตลาดสำคัญ และนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2562 ตามแผน หลังก่อนหน้านี้เคยออกจากตลาดเอเชียที่ประเทศจีนโดยขายกิจการให้กับ Didi Chuxing ไปก่อนหน้านี้
สำหรับดีลดังกล่าว Uber จะได้หุ้น 27.5% ใน Grab ที่มีมูลค่ากว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึง Dara Khosrowshahi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Uber จะเข้าไปนั่งเป็นคณะกรรมการของ Grab และหากอยากให้ดีลนี้เกิดขึ้น ทั้งสองบริษัทสามารถยื่นหนังสือไปให้คณะกรรมการดังกล่าวพิจารณาได้ทันที
ก่อนหน้านี้ทาง Uber ขาดทุนไปกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์เพื่อแข่งขันในสหรัฐอเมริกา และเอเชีย รวมถึงการมีปัญหาทางกฎหมายในประเทศยุโรปด้วย โดยทางบริษัทลงทุนกว่า 700 ล้านดอลลาร์ในการบริหารงานที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้การออกจากตลาดนี้เพื่อไปจริงจังในตลาดที่สำคัญน่าจะช่วยลดการขาดทุนได้ดีขึ้น
อ้างอิง // Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา