เทรนด์ลงทุนเหรียญคริปโตปี 2021 ต้องรู้จัก Diversify กระจายความเสี่ยงลงทุนอย่างอื่นบ้าง

ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินแนะนำเทรนด์การลงทุน Cryptocurrency ในปี 2021 ต้องรู้จัก Diversify เหรียญคริปโต เปลี่ยนเป็นทรัพย์สินอื่นบ้าง

ปัจจุบันกระแสการลงทุนใน Cryptocurrency หรือสกุลเงินดิจิทัลกำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Ethereum, Binance Coin หรือแม้แต่ Dogecoin เหรียญคริปโตที่เกิดมาเพื่อล้อเลียน Bitcoin แต่ดันกลายเป็นกระแสเพราะ Elon Musk มหาเศรษฐีเบอร์ 2 ของโลก

แต่ไม่ว่าจะลงทุนในเหรียญคริปโตอะไรก็ตาม สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนแนะนำให้ทำ คือ การ Diversify ไปสู่การลงทุนประเภทอื่นๆ บ้าง เพราะเหรียญคริปโตเป็นการลงทุนที่มีความผันผวนสูง

วัฎจักร “The Halving” ของ Bitcoin

สาเหตุที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน แนะนำให้ Diversify โดยเฉพาะการลงทุนใน Bitcoin เป็นเพราะ Bitcoin มีวัฎจักรสำคัญที่เกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี โดยเรียกว่า “The Halving” ซึ่งเป็นการลดอัตราการเกิดของเหรียญ Bitcoin ใหม่ลงครึ่งหนึ่งทุกๆ 4 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เหรียญ Bitcoin ที่ถูกขุดได้มีมากเกินไป เริ่มจาก 50 เหรียญทุกๆ 10 นาที โดยจำนวนเหรียญ Bitcoin มีทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ และคาดว่าจะถูกขุดจนหมดในปี 2140 หรืออีกนับร้อยปีต่อจากนี้

จากวัฎจักร The Halving ของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนเกิดเก็งกำไรในช่วงเวลาก่อนเข้าสู่วัฎจักรนั้น ไม่ว่าจะเป็นการขายเหรียญออกไป แล้วค่อยซื้อกลับเข้ามาใหม่ในราคาที่ถูกกว่าในเวลาต่อมา

นอกจากนี้นักลงทุนเหรียญคริปโต จะไม่เก็บกำไรที่ได้จากการลงทุนเป็นเงินสดโดยเด็ดขาด เพราะต้องคอยพิจารณาถึงปัจจัยอื่นๆ ของการเงินแบบปกติ เช่น อัตราการเงินเฟ้อ แต่นักลงทุนจะนิยมนำกำไรที่ได้จากเหรียญคริปโต ไปซื้อทรัพย์สินที่สามารถสร้างรายได้ได้ เช่น อสังหาริมทรัพย์ และใช้เงินบางส่วนแบ่งไปซื้อเหรียญคริปโตอื่นๆ เพื่อลงทุนเพิ่ม

เหรียญคริปโตไม่ได้มีแค่ Bitcoin ลงทุนเหรียญอื่นก็ได้

สาเหตุที่สองที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนแนะนำให้ Diversify เมื่อลงทุนในเหรียญคริปโต เป็นเพราะในโลกนี้ยังมีเหรียญคริปโตอื่นๆ อีกมาก ไม่ได้มีแค่ Bitcoin หรือเหรียญอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเหรียญทางเลือกอื่นๆ อีกมากเช่นกัน แถมเหรียญทางเลือกที่ว่านี้ทำให้คนกลายเป็นมหาเศรษฐีมาแล้วนักต่อนัก

ตัวอย่างเช่น Dogecoin เหรียญคริปโตที่ตอนแรกเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นล้อเลียน Bitcoin แต่กลายเป็นว่า Dogecoin กลับได้รับความนิยมเพราะ Elon Musk มหาเศรษฐีเบอร์ 2 ของโลก ที่เล่นกับกระแสของ Dogecoin ใน Twitter อยู่หลายครั้ง

เมื่อ Dogecoin ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมาก มีการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้มูลค่าของ Dogecoin เพิ่มขึ้นด้วย แม้ว่าตัว Dogecoin จะไม่ได้มีการจำกัดจำนวนเหรียญเหมือน Bitcoin ก็ตาม กลายเป็นว่านักลงทุนที่ซื้อเหรียญคริปโตทางเลือกอื่นๆ สามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล และนำเงินกำไรที่ได้ไปซื้อทรัพย์สินอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้ Passive Income ต่อไป

ไม่ว่าคริปโต หรือทรัพย์สินอื่นๆ ต่างก็มีลักษณะบางประการเหมือนกัน

สาเหตุสุดท้ายที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนแนะนำให้รู้จักการ Diversify เมื่อลงทุนในเหรียญคริปโตโดยเฉพาะ Bitcoin เพราะแม้เหรียญคริปโตจะไม่ได้มีการควบคุมจากหน่วยงานรัฐแบบทรัพย์สินชนิดอื่นๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ก็แนะนำว่าเหรียญคริปโต มีลักษณะบางประการที่เหมือนกับทรัพย์สินแบบอื่นๆ ทั้งข้อจำกัด และความต้องการที่เพิ่มขึ้น หรือลดลง

อย่างในกรณี Bitcoin ที่มีการจำกัดของจำนวนทั้งหมดไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ เพื่อป้องกันไม่ให้ Bitcoin ถูกขุดในปริมาณที่มากเกินไป และคาดว่าจะถูกขุดจนหมดในปี 2140 หรืออีกนับร้อยปีนับจากนี้ เช่นเดียวกันกับทรัพย์สินรูปแบบอื่นที่เราคุ้นเคยกัน เช่น เงิน ที่มีกฎในการควบคุม ไม่สามารถผลิตออกมาโดยไม่จำกัดจำนวนได้ อสังหาริมทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัด ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในแต่ละประเทศ รวมถึงจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต เป็นคำตอบที่สำคัญว่านักลงทุนในเหรียญคริปโต ควรมีการ Diversify การลงทุนของตัวเอง ไปสู่การลงทุนรูปแบบอื่นบ้าง เผื่อในกรณีที่ขาดทุนจากเหรียญคริปโต หรือได้ผลตอบแทนที่น้อยลง

ที่มา – Entrepreneur, Coindesk

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา