CPALL ซื้อหุ้นในบริษัทเจ้าของบัตรสมาร์ทเพิร์สเพิ่มเติมจากกลุ่ม TRUE อีก 15.76% โดยมีแผนเพื่อที่จะรองรับ O2O ในอนาคต นอกจากนี้ยังได้ความเชี่ยวชาญจากทีมงานบัตรสมาร์ทเพิร์สด้วย
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ถึงการที่บริษัทจะขออนุมัติการซื้อหุ้นของบริษัท ไทยสมาร์ทการ์ด จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของบัตร สมาร์ทเพิร์ส (Smart Purse) จากผู้ถือหุ้นที่มีความเกี่ยวข้อกันคือกลุ่ม TRUE
โดยมูลค่าการซื้อขายคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 454 ล้านบาท แต่ถ้าหากผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ตอบรับการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ มูลค่าจะอยู่ที่ประมาณ 788 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัท ไทยสมาร์ทการ์ด จำกัด มีผู้ถือหุ้นดังต่อไปนี้
- บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 72.64%
- บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 15.76%
- ธนาคารออมสิน ถือหุ้น 4.94%
- บริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 2.71%
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 2.47%
- บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 0.74%
- บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 0.74%
สำหรับผลการดำเนินงานของ ไทยสมาร์ทการ์ด นั้นปี 2560 ที่ผ่านมามีรายได้ทั้งสิ้น 311 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 49 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกของปี 2561 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 247 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 37.5 ล้านบาท
ทางซีพีออลล์ มองว่าการที่ซื้อหุ้นเพิ่มเติมจากกลุ่ม TRUE จะทำให้ลดความซ้ำซ้อนกันภายในกลุ่ม การเพิ่มรายได้จากฐานสมาชิกเดิมของบัตรสมาร์ทเพิร์ส และมองว่าปัจจุบันการแข่งขันด้าน E-Payment สูง ทำให้บริษัทต้องปรับเปลี่ยนแผนการ เพื่อความคล่องตัวในการบริหารทำให้ต้องซื้อหุ้นเพิ่มเติม
นอกจากนี้บริษัทยังมองเห็นประโยชน์เพื่อรองรับแผนกลยุทธ์ O2O (Online <-> Offline) ผ่านระบบ E-Payment ด้วยการเชื่อมต่อบริการอื่นๆ ของบริษัท เช่น เชื่อมต่อระบบ Payment Gateway ของ Counter Service รวมไปถึงความเชี่ยวชาญของทีมงามไทยสมาร์ทการ์ดอีกด้วย
ที่มา – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา