เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรกว่า 100 องค์กรช่วยเหลือคนไทยในยามวิกฤตโควิด-19 แบ่งปันความอิ่มท้องด้วยการแจกอาหารรวม 2 ล้านกล่องฟรี 40 จุดทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบถ้วนหน้า หลายคนต้องตกงาน ขาดรายได้เพราะผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิดจนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ภายใต้ภาวะความยากลำบากที่คนไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิดถือเป็นบทบาทสำคัญของซีพีในฐานะภาคเอกชนชั้นนำของประเทศที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน 100 ปี ในประเทศไทย
โดยยึดมั่นในหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ ที่ต้องตอบแทนคุณแผ่นดินให้ประเทศชาติและประชาชนมาก่อน “ธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) จึงได้มีแนวคิดรวมพลังกลุ่มธุรกิจในเครือฯ พร้อมผนึกกำลังร่วมกับองค์กรและพันธมิตรจากทุกภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องคนไทยให้ก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 ไปให้ได้ จึงได้เกิด “โครงการครัวปันอิ่ม ซีพีร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19” ขึ้น
ธนินท์กล่าวไว้ว่า “ในยามวิกฤตเกิดขึ้นในประเทศไทย เราได้เห็นน้ำใจของคนไทยด้วยกันมากมาย ผมประทับใจมาก และสำหรับซีพีที่เป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนไทย เมื่อยามชาติมีวิกฤตเราต้องช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือ ช่วยเพื่อให้พวกเราคนไทยอยู่รอดผ่านพ้นวิกฤตในช่วงนี้ไปให้ได้”
เป้าหมายในการทำโครงการครัวปันอิ่มของเครือซีพีนี้ เพื่อช่วยเหลือคนในชุมชนทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด และยังช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยที่ต้องปิดร้าน ขายอาหารไม่ได้ช่วงล็อคดาวน์ รวมถึงช่วยเหลือเกษตรกรจากราคาสินค้าตกต่ำด้วย เช่น มังคุดที่ขายไม่ได้ราคา ทางซีพีได้รับผลิตผลจากเกษตรกรมาแจกจ่ายให้ประชาชนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
โครงการครัวปันอิ่ม แจกข้าวกล่อง 2 ล้านกล่องฟรี 40 จุดในพื้นที่สีแดงทั้ง กทม. และปริมณฑล
อาหาร 2 ล้านกล่องนี้ เป็นอาหารจากเครือซีพี จำนวน 1 ล้านกล่อง และอีก 1 ล้านกล่องมาจากการที่ซีพีช่วยสนับสนุนร้านอาหารรายย่อยต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบซึ่งเป็นข้าวกล่องปรุงสุก สะอาด มีโภชนาการและถูกหลักอนามัยให้ได้เข้ามาร่วมสมทบในโครงการ ซึ่งมีร้านอาหารรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 ร้านค้า
โดยเริ่มดำเนินการแจกจ่ายอาหารตั้งแต่ ส.ค. – ก.ย. แจกทั้งหมด 40 จุดทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น ชุมชนคลองเตย ชุมชนเขตดอนเมือง ชุมชนริมทางรถไฟมักกะสัน ชุมชนแฟลตดินแดง ชุมชนลาดพร้าว รวมถึงชุมชนรอบร้าน 7อีเลฟเว่น รอบโลตัส เป็นต้น นอกจากข้าวกล่องที่แจกวันละ 40,000 กล่องแล้ว ยังได้แจกหน้ากากอนามัยซีพีอีก 6 ล้านชิ้นไปพร้อมกับข้าวกล่อง และยังมีมังคุดที่รับซื้อจากเกษตรกรภาคใต้เพื่อช่วยเหลือจากวิกฤตผลผลิตตกต่ำ ขายมังคุดไม่ได้ราคา
ส่วนองค์กรพันธมิตร มีมากกว่า 100 องค์กร ทั้งมูลนิธิ กลุ่มจิตอาสา และภาคประชาสังคม อาทิ มูลนิธิดวงประทีป กลุ่มเส้นด้าย กลุ่มอาสาดุสิต มูลนิธิสยามนนท์ รวมไปถึงกลุ่มสื่อมวลชนต่างๆ เช่น กลุ่มมติชน PPTV ThaiPBS อสมท. TopNews Nation ช่อง ONE เครือผู้จัดการ ฯลฯ เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายในชุมชนให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
คุยกับพันธมิตรร่วมโครงการครัวปันอิ่ม ซีพีร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19 : ช่วยเหลือสังคมตรงจุด ตอบโจทย์
ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป เล่าถึงการได้เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อช่วยเหลือคนในชุมชนคลองเตยขณะเกิดโควิดระบาดว่า เป็นการให้ความช่วยเหลือที่ครบวงจร ถูกจุด คนยากจนกำลังลำบากอย่างหนัก เพราะมีการล็อคดาวน์ ชาวชุมชนจึงรู้สึกซาบซึ้งใจมาก
”โครงการครัวปันอิ่มฯ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์บ้านเมืองวิกฤต ผู้คนหิวโหย ติดโควิดกันจำนวนมาก ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ หลายบ้านที่ติดโควิดออกไปไหนไม่ได้ อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โครงการนี้ยังสนับสนุนร้านค้าที่หมดทางทำมาหากิน ช่วยให้ผู้ประกอบการร้านอาหารได้เข้าร่วม มีรายได้ ทำอาหารมาส่งที่ชุมชน นับเป็นการกู้วิกฤตในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี คนในชุมชนก็รู้สึกซาบซึ้งใจ แม้เกิดวิกฤตเลวร้ายก็ยังมีผู้มีน้ำใจให้ความช่วยเหลือ ขอขอบคุณซีพี ขอบคุณ ประธานอาวุโสของซีพี คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ที่มีน้ำใจ“ครูประทีปกล่าว
ปิยาภรณ์ วงษ์บัณฑูรย์ ประธานกลุ่มอาสาดุสิต (กลุ่มประเทศไทยกลับมาสดใสดีกว่าเดิม) หรือพี่บี เล่าว่า ได้ร่วมมือกับทีมงานที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันหาพื้นที่ในการกระจายอาหาร ที่เราต้องดูแลจุดครัวปันอิ่ม บริเวณนี้ 100 กว่าชุมชน โดยลงพื้นที่ตั้งแต่เช้าถึงค่ำมืด โดยการกระจายอาหารนั้น เริ่มจากใช้วิธีนัดกันมาที่จุดนัดหมายซึ่งเป็นจุดกลางของดอนเมือง และให้ประธานชุมชนที่มีชื่อในรายชื่อมารับของที่นั่น บางชุมชนมีรถมารับเอง บางชุมชนไม่มีรถมารับ ก็ลงพื้นที่ไปร่วมแจกอาหาร หน้ากาก แอลกอฮอลล์ สำหรับกลุ่มผู้ว่างงานที่อาศัยตามพื้นที่ต่างๆ ก็ถือว่าเป็นประชาชนกลุ่มหนึ่ง แค่เพียงเดินมาก็หยิบข้าวได้เลย
ปิยาภรณ์รู้สึกขอบคุณครัวปันอิ่มกับโครงการดีๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือ ยังมีอีกหลายพื้นที่แทบจะทุกพื้นที่ที่ลำบาก อยากให้องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนมาช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือ เพื่อขับเคลื่อนไปทางที่ดีขึ้นง่ายขึ้น โครงการนี้ตอบโจทย์พื้นที่ชุมชนตอนนี้ เพราะในจุดดอนเมืองได้รับผลกระทบเยอะมากทั้งผู้ติดเชื้อ ผู้กักตัว กลุ่มเปราะบาง เช่นผู้พิการหรือผู้ยากไร้ ผู้ที่ตกงาน
ถือว่าโครงการนี้มาได้ถูกเวลา ขอขอบคุณทางเครือและพันธมิตรทุกฝ่ายที่สร้างโครงการดีๆ ขึ้นมา ชาวดอนเมืองก็ขอขอบคุณที่ทำให้เกิดการแบ่งปันแบบนี้ พัฒนาสังคมได้ดีขึ้น มีทั้งเมล็ดพันธุ์และอาหาร อุปกรณ์ป้องกันโรคระบาด และยังทำให้เรารักกันมากขึ้นด้วย
ถือเป็นเสียงสะท้อนและคำขอบคุณจากพันธมิตรที่เข้าร่วมในโครงการนี้ โดยหลังสิ้นสุดโครงการครัวปันอิ่ม เครือซีพีมีแผนโครงการที่จะช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติในช่วงที่กำลังเผชิญวิกฤตโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ดังนี้
โครงการปลูกฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ 100 วัน เตรียมผลิตยาสมุนไพรไทยฟ้าทะลายโจรจำนวน 30 ล้านแคปซูลแจกจ่ายฟรีให้ประชาชนเพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลน โดยระดมอาสาสมัครและพนักงานในเครือซีพีมาร่วมปลูกกล้าไม้ต้นฟ้าทะลายโจรเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้ทันกำหนดภายใน 100 วัน เพื่อส่งมอบยาชุดแรก 30 ล้านแคปซูล
โครงการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 (Community Isolation: CI) มีเตียงจำนวน 172 เตียงเพื่อช่วยดูแลรักษาในเบื้องต้นแก่ผู้ติดเชื้อที่รอเข้ารับการรักษาในระบบ โดยเครือซีพีจับมือกับพันธมิตร พร้อมภาคีเครือข่าย มหาวิทยาลัยรามคำแหง โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ปรับปรุงอาคารยิมเนเซียม ด้านหลังมหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นสถานที่ดำเนินการ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
โครงการสร้างโรงพยาบาลสนามสีเหลือง-ส้ม กว่า 600 เตียง เครือซีพีผนึกกำลังร่วมกับบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ปรับอาคารคลังสินค้าในพื้นที่ของบริษัท WHA ที่ย่านบางนา กม.19 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระการดูแลผู้ป่วยจากโรงพยาบาลหลักและเพื่อช่วยเพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง-ส้มที่มีอาการที่ต้องได้รับการดูแลใกล้ชิด
โครงการสร้างโรงพยาบาลสนามสีแดง จำนวน 200 เตียง เครือซีพีร่วมมือกับโรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ และ พฤกษา เรียลเอสเตท ใช้พื้นที่บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลสร้างโรงพยาบาลสนามรองรับกลุ่มผู้ป่วยสีแดง เปิดให้บริการได้ในเดือนตุลาคมนี้
สรุป
โครงการครัวปันอิ่มไม่เพียงมาช่วยอุดรอยรั่วของสังคมที่กำลังประสบความยากลำบากในการใช้ชีวิตจากวิกฤตโควิดระบาด แต่ยัง สะท้อนให้เห็นว่าในยามวิกฤตสังคมไทยไม่ทอดทิ้งกัน ก่อเกิดเป็นพลังสร้างสังคมแห่งความเกื้อกูลและแบ่งปันกันและกันในยามวิกฤต ซึ่งปรากฎให้เห็นผ่านโครงการครัวปันอิ่มตลอดระยะเวลา 2 เดือน ที่ได้ผนึกกำลังทั้งเอกชนและองค์กรพันธมิตรต่างๆ ในการร่วมแรงร่วมใจที่จะพาสังคมไทยผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน นอกจากครัวปันอิ่มแล้ว ยังมีอีกหลากหลายโครงการที่เครือซีพีตั้งใจเข้ามาสนับสนุนและช่วยส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ นี่ไม่ใช่แค่เพียงการปันความอิ่ม ปันน้ำใจให้แก่กันในยามทุกข์ร้อน แต่ยังช่วยกันฟันฝ่าโรคระบาดที่กำลังคุกคามเราด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา