CP ทุ่ม 4 หมื่นล้านบาทซื้อกิจการอาหารแช่แข็งแดนมะกัน เสริมแกร่งลุยตลาดโลก

cpf_logo-horz

ไม่ใช่ครั้งแรก และครั้งสุดท้ายแน่ๆ ของยักษ์อย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหารหรือ CP เพราะล่าสุดทุ่มงบเกือบ 40,000 ล้านบาท (1,100 ล้านดอลลาส์สหรัฐ) ซื้อกิจการอาหารแช่แข็ง Bellisio Parent, LLC เพื่อต่อยอดการทำธุรกิจในระดับโลก

สยายปีกสร้างความคึกคักต่อเนื่อง

เว็บไซต์ Wall Street Journal รายงานว่า 4 ปีมานี้ CP สร้างความตื่นเต้นในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2555 ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 3.3 แสนล้านบาท (ราว 9,300 ล้านดอลลาส์) เพื่อซื้อกิจการ Ping An Insurance บริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในจีน และไม่กี่เดือนก่อนก็ประกาศความร่วมมือกับกลุ่ม Alibaba เพื่อพัฒนาบริการทางการเงิน ซึ่งล่าสุดก็ซื้อกิจการ Bellisio Parent, LLC ยักษ์ใหญ่อาหารแช่แข็งของสหรัฐอเมริกา

จากเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการขยายอาณาจักร CP ไปในระดับโลก ที่สำคัญการซื้อกิจการ Bellisio ครั้งนี้ยังทำให้ CP ขึ้นเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายอาหารแช่แข็งพร้อมทานแบบ Single – Serve 3 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกาทันที ผ่านการถือแบรนด์ Michelina’s, Boston Market, Chilli’s และ Atkins นอกจากนี้ดีลทั้งหมดยังเจรจาเพียง 180 วัน โดยมี J.P. Morgan Chase & Co. เป็นที่ปรึกษา

cp-food
ภาพจาก WSJ

ก้าวแรกสู่สังเวียนผู้ผลิตอาหารระดับโลก

อดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ผู้ซื้อกิจการกลุ่ม Bellisio ย้ำว่า การเข้าซื้อ Bellisio ถือเป็นก้าวแรกของกลยุทธ์ขยายตลาดออกไปต่างประเทศ ดังนั้นจากคำพูดดังกล่าวจึงยืนยันได้ว่า หลังจากนี้จะเห็น CPF ขยายธุรกิจออกไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เศรษฐีไทยลงทุนขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก เช่นช่วงต้นปี เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าพ่อเบียร์ช้าง ได้ทุ่มทุนกว่า 1.2 แสนล้าน (3,460 ล้านดอลลาส์) ซื้อหุ้นใหญ่ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจากฝรั่งเศส Groupe Casino เพื่อได้สิทธิ์บริหารห้างบิ๊กซีในประเทศไทย รวมถึงจ่ายเงินอีก 40,000 ล้านบาท (1,100 ล้านดอลลาส์) เพื่อซื้อกิจการของ Groupe Casino ในประเทศเวียดนามเช่นกัน

สรุป

เชื่อว่าหลังจากนี้จะเห็นการ M&A ของธุรกิจยักษ์ใหญ่จำนวนมากอีกแน่ๆ ซึ่งการซื้อกิจการของ CP ครั้งนี้ก็คงแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการบุกตลาดโลกจริงๆ ก็คงต้องดูกันต่อไปว่า CP จะสามารถครองตลาดโลกได้แค่ไหน จะเบ็ดเสร็จเหมือนในประเทศไทยหรือไม่ อันนี้ต้องคอยติดตามกัน

cp

Credit: WSJ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา