เรื่องปากท้อง ค่าครองชีพ หลายคนหนักใจ ได้รับผลกระทบกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่าน้ำมันที่ดูเหมือนกันปรับขึ้นไม่หยุด ราคาก๊าซหุงต้มประเภทถัง15 กิโลกรัม ปรับขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ค่าผัก ค่าเนื้อสัตว์ที่แอบปรับขึ้นเงียบๆ ประชาชนที่ไม่ได้จ่ายตลาดเองก็คงไม่ทราบ เเต่แม่ค้าร้านอาหารตามสั่งทรายดีเพราะต้องออกจ่ายตลาดซื้อวัตถุดิบทุกวัน
ทีมงาน Brand Inside ลงพื้นที่สอบถามพ่อค้าร้านขายสเต็ก ที่ตลาดยิ่งเจริญ เล่าว่า ปรับขึ้นราคาอาหาร 10 บาททุกเมนู มาได้สักระยะเเล้ว เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น เเละปัจจัยอื่นๆอย่างค่าขน ค่าน้ำมัน เเละก็าซหุงต้ม โดยมีป้ายระบุปรับขึ้นราคาเเจ้งให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจน
เเละอีกหนึ่งพื้นที่ ทีมงาน Brand Inside ไปสอบถามกับเเม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ซอยวิภาวดี 16 เล่าว่า นี้ไม่ใช่ครั้งเเรกที่ปรับขึ้นราคาเมนูอาหาร ก่อนหน้านี้มีการปรับราคาขึ้นมาบ้างเเล้วเฉพาะบ้างเมนู เเต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจำเป็นต้องปรับราคาขึ้นมาทุกเมนู เพราะค่านำ้มันที่ขึ้น เเล้วมาเมื่อไม่กี่วันนี้ราคาก๊าซหุงต้มก็ขึ้นอีก ราคาวัตถุดิบต่างๆอีก ทยอยกันขึ้นราคา
“จากที่ก่อนหน้านี้รายจ่ายค่าสินค้าอยู่ที่ประมาณวันละ 5,000 บาท แต่ช่วงนี้ราคาสินค้าหลายอย่างปรับขึ้น ทำให้ต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้นอยู่ที่ประมาณวันละ 6,000 บาท แต่ยอดขายที่เคยขายได้วันละประมาณ 7,000-8,000 บาท เเต่ทุกวันนี้รายได้ลดลงเหลือแค่วันละ 5,000-6,000 บาท แต่ต้นทุนสูงขึ้น จึงต้องปรับค่าอาหารตามสั่ง จากเดิมที่เคยขายจานละ 40-50 บาท ตอนนี้ก็ขึ้นมาเป็น 50-60 บาท เเทบจะไม่ได้กำไร”
ด้านประชาชนรายหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกจ้างบริษัทขนส่ง เล่าว่า ทุกวันนี้ราคาอาหารเเพงขึ้นกว่าเดิม 5-10 บาท อย่างเเต่ก่อนเคยซื้อราคา 40-50 บาทต่อมื้อ เเต่ปัจจุบัน 100 บาทต่อมื้อยังไม่พอเลย จำเป็นต้องเลือกซื้ออาหารที่อิ่มนานเเล้วกินได้หลายมื้อ อย่างเช่น ข้าวเหนียว น้ำพริก เพื่อเป็นการประหยัด
“อยากวอนให้รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วย ขึ้นค่าเเรงให้พนักงานลูกจ้างบ้าง เพราะอย่างที่ทราบค่าครองชีพสูงขึ้น เเต่รายรับเท่าเดิม ประชาชนรายได้น้อยก็เดือดร้อน
“อาหารของเราเป็นอาหารทางเลือก คนส่วนใหญ่ที่มาซื้อ จะเป็นเด็กวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ช่วงที่ผ่านมาค่อยข้างเงียบ พอขายได้ เเต่ไม่มากเท่าเเต่เดิม”
เเม่ค้าร้านอาหารตามสั่งก็เล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงนี้ค้าขายค่อนข้างเงียบ ประชาชนประหยัดมากขึ้น เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น เเต่ทางร้านก็จำเป็นต้องค้าขายต่อไป เนื่องจากขายอาหารตามสั่งมานาน
ด้านประชาชนรายหนึ่ง ซึ่งเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทเอกชน เล่าว่า ทุกวันนี้ราคาอาหารเเพงขึ้นกว่าเดิม 5-10 บาท อย่างเเต่ก่อนเคยใช้จ่าย 100 บาทต่อวันซื้อกับข้าว ซื้ออาหาร ยังพอมีเหลือ 10 บาท 20 บาท เเต่ปัจจุบัน 100 บาทต่อมื้อยังไม่พอเลย อาศัยซื้อกับข้าวที่กินได้หลายมื้อ ก็พอประหยัดได้บ้าง
โดย การสำรวจราคาสินค้าในตลาดสด พื้นที่กรุงเทพมหานคร ของกรมการค้าภายใน ณ วันที่ 22 มิ.ย. เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 21 มิ.ย. พบว่ามีสินค้าหลายรายการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่
- ถั่วฝักยาว คัด ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 60-65 บาท/กิโลกรัม
- ถั่วฝักยาว คละ ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 50-55 บาท/กิโลกรัม
- ผักกวางตุ้ง คัด ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 30-35 บาท/กิโลกรัม
- ผักกวางตุ้ง คละ ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 20-25 บาท/กิโลกรัม
- ผักกาดหอม คัด ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 45-50 บาท/กิโลกรัม
- ผักกาดหอม คละ ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 35-40 บาท/กิโลกรัม
ส่วนราคาเนื้อหมูปรับขึ้นราคาจากช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ราคา 203 บาทต่อกิโลกรัม เเต่ปัจจุบันราคาเนื้อหมูอยู่ที่ 220 บาทต่อกิโลกรัม
เเละในวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ หอมมะลิ บรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัม จะปรับขึ้นถุงละ 30 บาท เป็นราคาถุงละ 195 บาท จากเดิมถุงละ 165 บาท ข้าวสารเจ้า บรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัม ปรับขึ้นถุงละ 10 บาท เป็นถุงละ 90 – 100 บาท จากเดิมราคาถุงละ 80-90 บาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา