ผลสำรวจเผย บริษัทในเอเชียต้องการเช่าออฟฟิศเพิ่มในระยะยาว แม้ทำงานแบบไฮบริดกันมากขึ้น

ออฟฟิศให้เช่ายังไม่ตาย ความต้องการเช่าสำนักงานในทวีปเอเชียยังเพิ่มขึ้นในระยะยาว จากการทำงานแบบไฮบริดที่เพิ่มขึ้น

สถานการณ์โควิด-19 ในบางประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาคลี่คลายลงจนคนส่วนใหญ่กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เดินทางออกไปทำงานนอกบ้านได้เช่นเดิมแล้ว เพียงแต่ในยุคหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้บริษัทใหญ่ระดับโลกอย่าง Google, Apple, Adobe, และ UBS ประกาศให้พนักงานทำงานแบบ “ไฮบริด” หรือการทำงานที่ให้อิสระกับการทำงาน เลือกทำงานที่บ้านได้บางวันตามความสะดวก

แม้ในเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทยเองจะยังไม่มีการพูดถึงการทำงานแบบไฮบริดกันมากนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตทุกบริษัทจะกำหนดให้พนักงานทำงานที่บ้านเพียงอย่างเดียว หรือกลับเข้าไปทำงานในสำนักงานอย่างเดียว 100% อีกต่อไปแล้ว

เพราะจากการการสำรวจตลาดพื้นที่สำนักงานในเอเชียแปซิฟิกของ CBRE พบว่า บริษัทที่เป็นผู้เช่าพื้นที่สำนักงานวางแผนที่จะขยายพื้นที่สำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้นในระยะยาว โดยจะนำกลยุทธ์การทำงานที่มีความยืดหยุ่น และการทำงานแบบไฮบริดมาใช้

โดย CBRE อธิบายว่าบริษัทในเอเชียที่ต้องการขยายพื้นที่สำนักงานให้มากขึ้น จะเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี บริษัทด้านการลงทุน และประกันภัย เป็นหลัก

ทำงานแบบไฮบริด ออฟฟิศยังจำเป็น

ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 50% ต้องการที่จะเพิ่มพื้นที่สำนักงานในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า มากกว่าช่วงเดือนตุลาคมปี 2020 ที่พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 23% เท่านั้นที่ต้องการเพิ่มพื้นที่สำนักงาน

นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าบริษัทต่างๆ มีการนำแนวคิดการทำงานแบบ “ไฮบริด” มาใช้ในการทำงานมากขึ้น จากเดิม 35% ในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็น 47% ในปีนี้ แถมยังมีความเชื่อด้วยว่าสำนักงานยังจำเป็น เพราะสำนักงานทำหน้าที่สร้างความร่วมมือในการทำงาน และช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับทีม เทียบระหว่าง 45% ในปีที่แล้ว กับ 83% ในปีนี้

ไม่มีแล้วโต๊ะประจำ ต่อไปต้องสลับกันนั่งแบบ Hot Desk

อย่างไรก็ตามเมื่อมีการทำงานแบบไฮบริด หมายความว่าจำนวนโต๊ะ และที่นั่งของพนักงานจึงน้อยลงไปด้วย ทำให้บริษัทต่างๆ นำแนวคิดโต๊ะทำงานที่ไม่ได้มีเจ้าของประจำมากขึ้น จากในปัจจุบัน 47% และจะเพิ่มขึ้นเป็น 74% ในอีก 2 ปีข้างหน้า

ด้านจำนวนบริษัทที่กำหนดให้พนักงานเข้ามาทำงานที่สำนักงานเพียงอย่างเดียวมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 11% ในปีที่แล้ว เป็น 15% ในปีนี้

แต่ก็ต้องยอมรับว่าจำนวนบริษัทที่มีแนวคิดการทำงานแบบหยืดหยุ่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็ยังมีจำนวนมากเช่นกัน โดยบริษัทที่ตอบแบบสอบถาม 47% สนับสนุนให้พนักงานเข้ามาทำงานในสำนักงาน แต่ก็อนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ตามต้องการ เพิ่มจากปีที่แล้วที่เคยอยู่ในสัดส่วน 35% เช่นเดียวกับบริษัทที่บังคับให้พนักงานทำงานที่บ้านเพียงอย่างเดียวลดลงจาก 11% เป็น 6% ในปีนี้

ทำงานที่สำนักงานมีข้อดีเหนือทำงานที่บ้าน

นอกจากนี้ CBRE ยังพบข้อดีของการทำงานในสำนักงาน เก็บข้อมูลจากบริษัทในเอเชียแปซิฟิก พบว่า การทำงานในสำนักงานมีข้อดีเหนือการทำงานที่บ้านในด้าน การทำงานร่วมกันระหว่างแผนกต่างๆ, การเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของทีม, การมีส่วนร่วมกับพนักงาน แต่ในขณะที่การทำงานที่บ้านจะมีข้อดีที่เหนือกว่าการทำงานในสำนักงานในด้าน ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานแต่ละคน รวมถึงสุขภาพ และชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงาน

ที่มา – ข่าวประชาสัมพันธ์

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา