คอมมาร์ต หวังสะพัด 3,300 ล้านบาท เหตุราคาสินค้าไอทีปรับตัวลดลง บาทอ่อนยังไม่กระทบ

เออาร์ไอพี ผู้จัดงาน คอมมาร์ต หวังงานระหว่างวันที่ 7-10 ก.ค. สะพัดกว่า 3,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนเล็กน้อย เหตุราคาสินค้าไอทีทยอยปรับตัวลดลง ส่วนค่าเงินบาทอ่อนยังไม่กระทบตอนนี้ แต่ช่วงปลายปีราคาขึ้นแน่

commart

คอมมาร์ต รอรับแรงซื้อสินค้าไอที

พรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อไอซีทีและการจัดงาน บมจ. เออาร์ไอพี เล่าให้ฟังว่า ในงานคอมมาร์ตที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 ก.พ. 2565 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บริษัทคาดหวังเงินสะพัดภายในงานที่ 3,300 ล้านบาท มากกว่าครั้งเมื่อต้นปี 2565 ที่มีเงินสะพัดราว 3,000 ล้านบาท

“งานนี้สินค้าที่จำหน่ายได้ดียังเป็นโน้ตบุ๊กที่คิดเป็น 50% ของยอดเงินสะพัด รองลงมาเป็นดีไอวาย (คอมพิวเตอร์ประกอบ) และอันดับ 3 อาจเป็นการ์ดจอ หรือกลุ่มอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เนื่องจากผู้ขายภายในงานเริ่มมาจำหน่ายเฉพาะการ์ดจอมากขึ้นจากเดิมบังคับซื้อพร้อมเครื่องดีไอวายเท่านั้น”

เหตุผลที่เงินสะพัดเพิ่มขึ้นมาจากแรงซื้อสินค้าไอทีที่ยังมีต่อเนื่อง ประกอบกับการทยอยปรับราคาลงของสินค้าต่าง ๆ หลังปัญหาชิป และชิ้นส่วนอื่น ๆ ขาดแคลนเริ่มคลี่คลาย รวมถึงเรื่องค่าเงินบาทอ่อนที่ยังไม่กระทบกับราคาสินค้าตอนนี้ เพราะล็อตที่ขายในงานเป็นสินค้าที่นำเข้ามาก่อนที่ปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้น

งานนี้ราคายังดี และงานหน้าจะสูงแน่นอน

“ยอมรับว่ามีทั้งปัจจัยบวก และลบภายในงานนี้ บวกคือซัพพลายสินค้าดีขึ้น เริ่มไม่มีปัญหาขาดตลาด และกลุ่มคริปโตฯ อยู่ในช่วงขาลงทำให้ราคาการ์ดจอเริ่มถูกลง ส่วนลบคือราคาน้ำมัน และเงินเฟ้อที่ทำให้การตัดสินใจซื้อยากขึ้น แต่เราทราบจากฝั่งผู้ขายว่าหลังคอมมาร์ตครั้งนี้ราคาน่าจะแพงขึ้นเพราะปัญหาค่าเงินบาทอ่อน”

สำหรับงานคอมมาร์ตในครั้งปลายปีจะจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคเช่นเดิม ยังไม่ย้ายไปที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เหมือนกับงานอื่น เนื่องจากเซ็นสัญญาไว้แล้ว และต้องการสร้างความสะดวกให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ในการวางแผนการจัดงานในสถานที่เดียวทั้งปี

อย่างไรก็ตาม ทีมผู้จัดไม่สามารถเปิดเผยจำนวนผู้เข้าชมงานได้ เนื่องจากฝ่ายสถานที่ยังถูกกำชับให้ระวังเรื่องความหนาแน่นของผู้เข้าชมงานเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 โดยทางงานมีการตรวจเช็คการฉีดวัคซีน และผล ATK ของผู้เข้าชมงานก่อนเข้าประตู

commart

การจับจ่ายดูคึกคักกว่างาน TME

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันแรกของการจัดงานคอมมาร์ต ภาพรวมงานดูค่อนข้างคึกคักกว่างาน Thailand Mobile Expo ที่จัดขึ้นในเดือน พ.ค. 2565 อาจเพราะเรื่องโปรโมชันภายในงาน, การลดราคาของสินค้าไอที และการออกมาใช้ชีวิตอย่างปกติมากขึ้นของผู้คน

งานคอมมาร์ตครั้งนี้ผู้ขายหลัก 5 รายคือ IT City, JIB, Advice, Banana และ Speed Computer โดยแต่ละรายนอกจากมีบูตขนาดใหญ่ ยังมีบูตขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วงาน และร้านเหล่านั้นยังจำหน่ายภายใต้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ เช่น Acer, Asus และ Lenovo เป็นต้น

สำหรับราคาสินค้ากลุ่มการ์ดจอที่ก่อนหน้านี้ราคาพุ่งสูงเพราะความต้องการใช้งานเพื่อขุดบิตคอยน์ และสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ ภายในงานคอมมาร์ตมีการปรับลดราคาลงมาจริง รวมถึงการขายแบบผูกกับเครื่องดีไอวายลดน้อยลงชัดเจน เพราะซัพพลายสินค้าเริ่มกลับมาแล้ว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา