ขวดโค้กคือขยะที่มีให้เห็นได้ทุกริมหาด สะท้อนชัดเป็นเบอร์ต้นด้านสร้างขยะ แต่ Coca-Cola ตั้งเป้าลดพลาสติกใช้แล้วทิ้งแค่ 25% องค์กรสิ่งแวดล้อมวิจารณ์จึงออกมาโต้
Coca-Cola จะลดขยะ 25% นักเคลื่อนไหวบอกไม่พอ
เมื่อวานนี้ Coca-Cola ประกาศว่าจะเปลี่ยนขวดเครื่องดื่ม 25% เป็นแบบรีไซเคิลได้ ภายในปี 2030 หลังจากโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องมาหลายปีว่าเป็นผู้สร้างมลพิษจากพลาสติกรายใหญ่
โดย Coca-Cola ระบุอย่างผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่าขวดดังกล่าวจะมาในรูปแบบของขวดแก้วหรือพลาสติกที่สามารถส่งมอบคืนได้หรือนำกลับมาเติมซ้ำ ณ จุดจ่ายเครื่องดื่ม
แต่องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกจำนวนมากมองว่า ความพยายามของ Coca-Cola ไม่เพียงพอ
Kate Melges ผู้เป็น Global Plastics Corporate Lead ของ Greenpeace โต้ตอบแถลงการณ์ครั้งนี้ว่า “โค้กสามารถสร้างความเป็นผู้นำโดยการมุ่งมั่นเป็น 2 เท่า เปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลให้ได้ 50% ภายในปี 2030 สร้างเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและไร้ขยะ ซึ่งเป็นสิ่งที่โลก ชุมชน และสิ่งแวดล้อมของเราต้องการเป็นอย่างยิ่ง”
โดนเล่นหนัก เพราะเป็นผู้สร้างมลพิษตัวยง
Greenpeace องค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก ชี้ว่า ในแต่ละปี Coca-Cola ผลิตขวดพลาสติกกว่า 1.2 แสนล้านชิ้น และการใช้ขวดแบบใช้แล้วทิ้งก็ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้โรงงานผลิตปิโตรเคมีและปลายน้ำของขยะพลาสติก
ถ้าถามว่า Coca-Cola สร้างผลกระทบหนักขนาดไหน ต้องบอกว่า Coca-Cola เป็นแบรนด์ที่สร้างขยะพลาสติกมากที่สุดในโลก 4 ปีซ้อน จากข้อมูลในรายงานประจำปีของ Break Free From Plastic ความเคลื่อนไหวด้านขยะพลาสติกที่กว่า 11,000 องค์กรทั่วโลกเข้าร่วม
ส่วนอีก 4 แบรนด์ที่เป็นผู้สร้างขยะพลาสติกมากเป็นอันดับ 2-5 ได้แก่ PepsiCo, Unilever, Nestle, และ Procter & Gamble
ที่มา – Coca-Cola, Reuters, Greenpeace, BreakFreeFromPlastic, MarketWatch
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา