เปิดกลยุทธ์ CoCo ชาไข่มุกต้นตำหรับไต้หวัน ยืนหนึ่งด้วยคุณภาพท่ามกลางกระแสฟีเวอร์

ท่ามกลางกระแสชาไข่มุกฟีเวอร์ แต่แบรนด์ CoCo ยังสามารถยืนหยัดในตลาดมาได้ตลอด 7 ปีในประเทศไทย โดยมีแฟนพันธุ์แท้ เคล็ดลับความสำเร็จคือต้นตำหรับคุณภาพจากไต้หวัน ที่มาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก!

ยืนหยัดด้วยคุณภาพจากไต้หวัน ในราคาสมเหตุสมผล

ต้องบอกว่าในประเทศไทยตอนนี้คงไม่มีอะไรจะร้อนแรงไปกว่า “ชาไข่มุก” อีกต่อไปแล้ว เพราะในช่วงปีที่ผ่านมามีแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นมามากมาย ทั้งแบรนด์ไทย และแบรนด์อิมพอร์ตจากต่างประเทศ มีราคาที่แตกต่างกันไป สร้างความคึกคักให้ตลาดอย่างมาก

แต่ถ้ามองย้อนกลับไปนั้นตลาดชาไข่มุกได้รับความนิยมมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 10 ปีแน่นอน เพียงแต่ในยุคก่อนนั้นยังไม่มีโซเชียลมีเดียที่ช่วยแชร์กระแสความนิยมนั้นได้

นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ที่อยู่มาได้ยาวนานนั้นต้องเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งจริงๆ อย่างแบรนด์ CoCo Fresh Tea & Juice หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า CoCo แบรนด์ชาไข่มุกชื่อดังจากประเทศไต้หวัน การันตีด้วยความสำเร็จมาตลอด 22 ปีของการก่อตั้งแบรนด์

ส่วนในประเทศไทยนั้น CoCo ได้ทำตลาดมาได้ 7 ปีแล้ว เป็นโมเดลของการร่วมทุนของนักธุรกิจหนุ่ม โก้-กฤตพณ ทัพพะรังสี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แอนด์ ดริ๊งค์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดกับแบรนด์ CoCo ในไต้หวัน

จุดเริ่มต้นเกิดจากการที่คุณกฤตพณได้ไปไต้หวันแล้วเห็นว่าร้าน CoCo ทุกสาขาที่เห็นจะมีคนต่อแถวยาว พอได้ลองชิมก็ติดใจในรสชาติ จึงสนใจที่จะนำเข้ามาในประเทศไทยเพื่อให้คนไทยได้ลิ้มรสชาไข่มุกต้นตำรับแท้จากไต้หวัน

“เป็นคนชอบดื่มชานมไข่มุกอยู่แล้ว เมื่อไปทดลองชิมชานมไข่มุกร้านดังๆ ที่ไต้หวันหลายแบรนด์ และได้เลือกแบรนด์ที่ชอบมากที่สุดคือ แบรนด์ CoCo ซึ่งติดใจในรสชาติ คุณภาพ ความสดใหม่ของเครื่องดื่ม รวมทั้งมาตรฐานการบริการของพนักงาน จึงอยากจะนำชานมไข่มุกต้นตำรับแท้จากไต้หวันมาให้คนไทยได้ชิมกัน”

การันตีรสชาติต้นตำรับจากไต้หวันทุกแก้ว

จุดเด่นที่สำคัญของ CoCo ก็คือ เป็นแบรนด์ที่ยึดถือผู้บริโภคเป็นที่ตั้ง และให้ความใส่ใจกับคุณภาพของวัตถุดิบ และ สินค้า มีการควบคุมคุณภาพอย่างดีทุกขั้นตอน ซึ่งในประเทศไทยได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลคุณภาพอย่างใกล้ชิดจาก CoCo ไต้หวัน ไม่ว่าทานที่สาขาไหน ก็รสชาติเหมือนที่ไต้หวันทุกแก้ว

อีกหนึ่งความน่าสนใจของแบรนด์ CoCo ในประเทศไทยก็คือ การอยู่ในตลาดมายาวนานถึง 7 ปี ท่ามกลางสมรภูมิเดือดของตลาดชาไข่มุก โดยที่ผ่านมามีการทำการตลาดและสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์มีการเติบโตด้วยคุณภาพ และมีลูกค้าที่มี Loyalty กับแบรนด์สูง

อีกหนึ่งปัจจัยความสำเร็จนอกจากเรื่องคุณภาพของสินค้าแล้ว ยังมีราคาที่สมเหตุสมผล และมีเมนูที่หลากหลายทั้งสำหรับสายชา รวมถึงสายน้ำผลไม้ สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าทุกกลุ่มอีกด้วย

ชาไข่มุกไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นไลฟ์สไตล์

ถ้าจะบอกว่าอยู่ในช่วงชาไข่มุกฟีเวอร์ก็ไม่เชิงมากนัก จากความนิยมของผู้บริโภคชาวไทยจนทำให้ตอนนี้ชาไข่มุกไม่ใช่เป็นเพียงแค่ปรากฎการณ์ หรือเทรนด์ฮิตยอดนิยมเท่านั้น กลายเป็นว่าชาไข่มุกเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ที่เรียกได้ว่าสามารถดื่มชาไข่มุกเป็นประจำทุกวัน ไม่ใช่แค่กระแสที่มาแล้วหายไป เลิกฮิตก็เลิกดื่ม

“จากที่ได้ทำการศึกษา และทำตลาดมานั้นพบว่ากระแสชาไข่มุกจะกลับมาทุกๆ 5 ปี สิ่งที่ทาง CoCo ได้เห็นว่ากระแสชาไข่มุกฟีเวอร์ครั้งล่าสุดช่วงต้นปีที่ผ่านมาทำให้ฐานลูกค้าเพิ่ม มากขึ้น มีแบรนด์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ความต้องการซื้อชาไข่มุกในตลาดสูงขึ้น จึงมีการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นด้วย”

ถ้าลองมองดูในตลาดชาไข่มุกในปัจจุบัน แล้วเทียบกับในอดีตนั้น มีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงมากมาย ในด้านของพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยอมจ่ายเงินกับชาหนึ่งแก้วมากขึ้น รวมถึงความหลากหลายของสินค้าใหม่ๆ แพ็คเกจจิ้งใหม่ๆ ที่สร้างความน่าตื่นเต้นให้ตลาดได้เป็นอย่างดี

ที่สำคัญคือโซเชียลมีเดียที่เข้ามามีบทบาทในการแชร์กระแสความนิยมของคนไทย ทำให้ตลาดชาไข่มุกร้อนแรงด้วยเช่นกัน

ไม่เน้นขยายสาขาที่ปริมาณ แต่เน้นที่คุณภาพ

ปัจจุบัน CoCo ในประเทศไทยมีทั้งหมด 13 สาขา หลายคนอาจจะมองว่ามีจำนวนสาขาที่น้อยไป เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

แต่นโยบายของสำนักงานใหญ่ที่ไต้หวันจะไม่ขยายสาขาที่เน้นปริมาณ แต่จะเน้นที่คุณภาพ และมีการบริหารเองทุกสาขา นั่นหมายความว่าร้านต้องมีทำเลที่ตั้งที่ดี กลุ่มเป้าหมายที่ใช่ถึงจะเลือกลงทุน ที่สำคัญคือเป็นการลงทุนของบริษัทเอง ไม่ใช่การขายแฟรนไชส์ จึงมั่นใจในเรื่องคุณภาพได้แน่นอน

สำหรับแผนการขยายสาขาของ CoCo มองว่าจะขยาย 5-6 สาขาต่อปี อยู่ในทำเลเน้นศูนย์การค้า สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ตึกออฟฟิศ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น

รวมถึงมีการพัฒนาเมนูใหม่ๆ และมีเมนูโลคอล เช่น เมนูชาไทยที่คิดค้นมาเฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น แต่ก็มีการทำงานร่วมกับบริษัทแม่ในการวิเคราะห์เทรนด์ จนพัฒนาออกมาเป็นเมนูใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ปัจจุบัน CoCo มีสาขาทั้งหมด มากกว่า 4,500 สาขาในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก เช่น ไต้หวัน, จีน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, อังกฤษ, อเมริกา, ฟิลิปปินส์, แคนาดา, อินโดนีเซีย เวียดนาม และประเทศไทยมีทั้งหมด 13 สาขา

ฉลอง 22 ปี มีโปรฯ ดีๆ เพียบ

เนื่องจากเดือนมิถุนายนเป็นเดือนที่สำคัญของแบรนด์ CoCo ปีนี้มีอายุครบ 22 ปี ถ้าเปรียบกับคนแล้วก็เป็นวัยหนุ่มเต็มตัว ซึ่งในประเทศไทยจะมีการฉลองครบรอบ 22 ปีของแบรนด์ CoCo อย่างยิ่งใหญ่

โดยตลอดทั้งเดือนจะมีการจัดกิจกรรมที่อัดแน่นเอาใจลูกค้า ทั้งกิจกรรมออนไลน์ และออฟไลน์ที่หน้าร้าน เป็นแผนส่งเสริมการตลาด มีโปรโมชั่นคืนความสุขให้ลูกค้าที่เป็นแฟนพันธุ์แท้มาโดยตลอด ซึ่งสามารถติดตามได้ที่หน้าแฟนเพจ CoCo Fresh Tea & Juice (Thailand) เพื่อรับข่าวสารดีๆ ได้ตลอด

สรุป

ตลาดชาไข่มุกในประเทศไทยยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เทรนด์ หรือกระแสชั่วคราวแล้วเท่านั้น แต่เข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนจริงๆ บางคนดื่มเพื่อสร้างความสดชื่นให้ร่างกาย บางคนดื่มเพื่อความสุขแก่ตัวเอง การที่แบรนด์ CoCo อยู่ในตลาดมายาวนานได้ผ่านยุคที่ตลาดชาไข่มุกไม่ได้นิยมเท่าตอนนี้มาได้ ถือว่าเป็นความเก๋าที่อัดแน่นด้วยคุณภาพจริงๆ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา