27 ปีนี่เรียกว่านานพอสมควร แต่เชื่อหรือไม่ว่าตลอด 27 ปีที่ผ่านมาเครื่องดื่ม “โค้ก” ในญี่ปุ่นนั้นไม่เคยประกาศขึ้นราคาเลยสักครั้ง ซึ่งสุดท้ายทางบริษัทก็คงแบกรับต้นทุนไม่ไหว และเตรียมปรับขึ้นราคาเกือบทุกผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม
ครั้งแรกในรอบ 27 ปีกับการปรับขึ้น 20 เยน
การปรับขึ้นราคาครั้งนี้เกิดมาจาก Coca-Cola Bottles Japan บริษัทผู้ทำตลาดเครื่องดื่มแบรนด์โค้ก และอื่นๆ มีการลงทุนเทคโนโลยีการผลิต และการบริหารจัดการที่ดีมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันต้นทุนการกระจายสินค้านั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับต้นทุนด้านวัตถุดิบ ทำให้มีความจำเป็นต้องปรับราคาใหม่กับสินค้าที่ทำตลาดในตอนนี้
ทั้งนี้การปรับราคาของบริษัทดังกล่าวต้องย้อนไปตั้งแต่ปี 2536 หรือ 27 ปีมาแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าศึกษา เพราะบริษัทสามารถแบกรับต้นทุนทั้งการผลิต รวมถึงภาษีจากหน่วยงานรัฐไว้นานขนาดนั้นได้อย่างไร แต่ทั้งนี้การปรับขึ้นราคาสินค้าของกลุ่มจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป หรือตรงกับปีปฏิทินใหม่ของชาวญี่ปุ่น
สำหรับสินค้าที่จะปรับราคาขึ้นประกอบด้วยเครื่องดื่มโค้กขวดพลาสติกขนาด 1.5 และ 2 ลิตร โดยเป็นการปรับขึ้น 20 เยน (ราว 6 บาท) เช่นขวดขนาด 1.5 ลิตรก็จะมีราคาขายปลีกแนะนำที่ 320-340 เยน (ราว 94-100 บาท) และขวดขนาด 2 ลิตรจะอยู่ที่ 340-360 เยน (ราว 100-105 บาท)
ขณะเดียวกันสินค้าขนาดดังกล่าวของกลุ่มเช่น น้ำอัดลมสไปร์ท, แฟนต้า และ Qoo ก็จะปรับขึ้นในลักษณะเดียวกัน รวมถึงกลุ่มน้ำดื่ม Ilohas และ Mori no Mizu Dayori กับเครื่องดื่มชาเขียว Ayataka กับ Sokenbicha ด้วย แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วน่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบกับ Coca-Cola Bottles Japan มากนัก
เนื่องจากคนทั่วไปคงซื้อโค้ก และน้ำอัดลมอื่นๆ ตามตู้หยอดเหรียญมากกว่า และคงมีส่วนน้อยที่ซื้อขนาดใหญ่ ผ่านขนาดครัวเรือนของญี่ปุ่นที่มีเพียงไม่เกิน 3 คน/ครัวเรือน แต่ในฝั่งเครื่องดื่มชาเขียวนั้นน่าจะกระทบกว่า เพราะมักถูกซื้อไปกินเป็นประจำในครัวเรือน และสำนักงานต่างๆ
สรุป
กลายเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ เพราะ Coca-Cola Bottles Japan ทำอย่างไรถึงคงราคาเดิมไว้นานถึง 27 ปีได้ แล้วก็น่ากลับมามองย้อนที่ประเทศไทยที่มีสินค้าจำนวนมากปรับราคาอยู่ตลอดเวลา และคงเป็นการยากที่จะคงราคาไว้ได้นานขนาดนี้โดยไม่ต้องลดขนาดของสินค้าในราคาจำหน่ายเท่าเดิม
อ้างอิง // Soranews24
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา