“ธุรกิจมันจะเป็นธุรกิจได้อย่างไร หากเราไม่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า” นี่คือหนึ่งในเหตุผลของหัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Coca-Cola ที่ชี้แจงว่า ทำไมทางบริษัทจะไม่แบนพลาสติก 100%
ไม่แบนขวดพลาสติก เพราะลูกค้ายังต้องการ
Bea Perez หัวหน้าฝ่ายดูแลเรื่องความยั่งยืนของ Coca-Cola พูดในเวทีที่ดาวอสซึ่งเป็นที่ประชุมเศรษฐกิจใหญ่ของโลก โดยพูดถึงประเด็นเรื่องการใช้ขวดพลาสติกของ Coca-Cola ว่า ทางแบรนด์จะไม่เลิกผลิตขวดพลาสติก เพราะลูกค้ายังชื่นชอบและยังต้องการอยู่ เพราะขวดพลาสติกสามารถนำกลับมาใช้ใหม่และมีน้ำหนักที่เบา
นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของ Coca-Cola คือการประกาศใช้พลาสติกในการผลิตให้น้อยลง 50% ภายในปี 2030
เหตุผลสำคัญในการใช้ขวดพลาสติกเป็นส่วนหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ หัวหน้าฝ่ายดูแลเรื่องความยั่งยืนของ Coca-Cola บอกว่า หากทางบริษัทแบนขวดพลาสติก แล้วหันไปใช้ขวดชนิดมากขึ้น เช่น ขวดแก้ว หรือขวดอะลูมิเนียม ถึงที่สุดจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะถ้ามองในแง่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกถือว่าเลวร้ายกว่าขวดพลาสติกเป็นอย่างมาก
ดังนั้น “ธุรกิจมันจะเป็นธุรกิจได้อย่างไร หากเราไม่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า” เธอบอกต่อด้วยว่า “เราต้องค่อยๆ เปลี่ยนจากโครงสร้างการผลิตขวดของเรา พัฒนานวัตกรรมที่ทำให้ขวดของเรารีไซเคิลได้ เสร็จแล้วก็นำเสนอให้ผู้บริโภคเห็นว่ามันมีทางเลือกในการรักษาสิ่งแวดล้อม ในที่สุดพวกเขาจะเปลี่ยน[พฤติกรรม]ไปพร้อมกับเรา”
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Break Free from Plastic ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลด้านสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า Coca-Cola เป็นบริษัทที่ปล่อยมลพิษมากที่สุดในโลกในปี 2019 และนอกจากนั้นก็มีข้อมูลด้วยว่า Coca-Cola เพียงแบรนด์เดียวผลิตพลาสติกไปถึง 3 ล้านตันต่อปี คิดเป็นตัวเลขง่ายๆ คือ ทุก 1 นาที Coca-Cola ได้ผลิตขวดพลาสติกไปแล้ว 200,000 ขวด
ที่มา – BBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา