ไทยกับสหรัฐร่วมฝึก Cobra Gold เต็มรูปแบบแล้ว! หลังห่างหายจนจีนกลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่

ไทยกับสหรัฐอเมริกา กลับมาร่วมฝึก Cobra Gold แบบเต็มรูปแบบแล้ว! หลังจากรัฐประหาร ความสัมพันธ์เริ่มห่างหายจนจีนกลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่แทนที่สหรัฐ

วานนี้คือวันแรกที่มีพิธีเปิด Cobra Gold เพื่อฝึกซ้อมรบร่วมกัน ซึ่งการฝึกครั้งแรกเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1982 ส่วนครั้งนี้ถือเป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการฝึกบุคลากรในด้านภัยพิบัติทางอวกาศที่จะส่งผลกระทบต่อระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม ครั้งนี้มีทหารจากสหรัฐฯ เข้าร่วมกว่า 6,000 นาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินราว 3,800 นาย และทหารไทยเข้าร่วมกว่า 3,000 นาย

Cobra Gold

ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ทูตฝ่ายทหาร Kurtis A. Leffler ระบุว่า การฝึกซ้อมดังกล่าวนี้ จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันและทำให้กล้ามเนื้อสามารถจดจำได้ ทั้งนี้ก็เพื่อจะสามารถรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในโลกจริงได้ เพื่อลดระยะเวลาในการรับมือสถานการณ์ร่วมกันและสามารถรักษาชีวิตผู้คนได้ด้วย

การฝึกคอบร้าโกลด์แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือการฝึกเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส การฝึกเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการฝึกเพื่อให้ความช่วยเหลือจากภัยพิบัติ รวมทั้งการฝึกภาคสนามด้วย

สำหรับช่วงสองปีก่อนหน้าที่มีโควิดระบาดก็มีการร่วมฝึกซ้อมทางทหารเช่นกันแต่เป็นการร่วมฝึกซ้อมในขนาดย่อม โดยประเทศที่ร่วมฝึก นอกจากไทย สหรัฐฯ แล้วยังมีอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ รวมถึงประเทศอื่นๆ อาทิ บังคลาเทศ บรูไน แคนาดา ฟิจิ ฝรั่งเศส มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ และอังกฤษ อีกทั้งมีประเทศที่เข้ามาร่วมสำรวจด้วย อาทิ กัมพูชา เยอรมนี เวียดนาม

 

ส่วนเมียนมาไม่ได้เข้าร่วมฝึกตั้งแต่ทำรัฐประหารในปี 2021 ซึ่งสหรัฐฯ เองก็เคยระงับความช่วยเหลือด้านการทหารกับไทยหลังจากทำรัฐประหารในปี 2014 เช่นกัน ความช่วยเหลือดังกล่าวก็มีทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินหรือการปล่อยเงินกู้เพื่อให้สามารถจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ ได้

ในปีเดียวกันนั้นเองจีนก็เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการฝึกเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในคอบร้าโกลด์ด้วย ขณะเดียวกันจีนก็กลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของไทย จากเดิมที่ก่อนหน้าช่วงปี 2002-2006 ถือว่าสหรัฐอเมริกาเป็นผู้จัดหาอาวุธฯ รายใหญ่ที่สุดให้กับไทย จากนั้นในช่วงปี 2007-2011 สวีเดนก็ขึ้นเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ที่สุดแทนสหรัฐฯ

จากนั้นในปี 2012-2016 ประเทศรายใหญ่ในการจัดหาอาวุธให้ไทย ก็มีทั้งยูเครน ประเทศอื่นๆ และสวีเดน ส่วนสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับน้อยลงใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้า ขณะที่ปี 2017-2021  ผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ของไทยคือเกาหลีใต้ ประเทศอื่นๆ ตามด้วยจีน ยูเครน สหรัฐ และสวีเดน

สำหรับยอดขายอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ 2.85 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1 แสนล้านบาท ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยกำลังรอให้สภาคองเกรสอนุมัติเพื่อขายเครื่องบินขับไล่ F-35 ในมูลค่า 413 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.45 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเครื่องบิน F-16 ใกล้ปลดระวาง

ที่มา – Nikkei, Cobra Gold Thailand

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา