ปัจจุบันกลุ่มคนรุ่น Gen X และ Gen Y เริ่มเข้ามามีบทบาทในแต่ละครัวเรือนมากขึ้น และเหตุการณ์นี้ทำให้กิจกรรมต่าง ๆ ในครอบครัวเปลี่ยนไปเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ การไหว้ตรุษจีน เพราะหากสังเกตกันดี ๆ ประเภทอาหาร และรูปแบบการไหว้เริ่มไม่ได้ยึดติดกับชุดไหว้ซาแซ หรือโหงวแซเหมือนในอดีต
เมื่อรูปแบบ และลักษณะการไหว้เปลี่ยนไป ผู้ค้าก็ต้องเปลี่ยนตาม ซึ่ง กูร์เม่ต์ มาร์เกต พรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ต มีการปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อจูงใจลูกค้า และสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ยิ่งการจับจ่ายช่วงตรุษจีนในระยะเวลาราว 10 วัน กินสัดส่วนเป็น 5 อันดับแรกของเทศกาลต่าง ๆ ก็ยิ่งจำเป็นที่จะต้องจริงจัง
การเปลี่ยนแปลงของเทศกาลตรุษจีนในมุมผู้ค้าจะเป็นอย่างไร และกรูเม่ต์ มาร์เกต ต้องปรับตัวในแง่มุมใดบ้าง Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ ศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ดังนี้
ผู้บริโภคปรับ ตรุษจีนก็เปลี่ยน
ศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ผู้บริโภคที่อายุต่ำกว่า 40 ปี เข้ามามีบทบาทกับการไหว้ตรุษจีนมากขึ้น และพวกเขาอาจไม่คุ้นเคยกับการไหว้แบบดั้งเดิม หรือต้องการไหว้ตามความต้องการของพวกเขา ซึ่งต่างกับคนที่อายุเยอะกว่านั้นมาก
“การไหว้ตรุษจีนไม่ได้รับแค่ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่อำนวย แต่ 4-5 ปีที่ผ่านมายังเผชิญกับรูปแบบการไหว้ที่เปลี่ยนไป เพราะคนรุ่นใหม่เริ่มไม่ได้มองว่าการไหว้ตรุษจีนคือการไหว้บรรพบุรุษ แต่กลับเป็นการไหว้เพื่อตัวเองด้วย เช่น เพื่อความโชคดีในปีนี้ หรือการได้รับประทานสิ่งที่ตัวเองต้องการ”
ในมุมมองของกูร์เม่ต์ มาร์เกต ผู้ซื้อสินค้าในการไหว้ตรุษจีนแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ
- กลุ่มไหว้แบบครบถ้วนตามประเพณีดั้งเดิม
- กลุ่มรุ่นที่ 3 ของครอบครัว ที่เน้นความสะดวก และต้องการรับประทานของไหว้ได้ทันที
- กลุ่ม Foodie ที่สนใจด้านอาหารมากกว่าพิธีกรรมต่าง ๆ
- กลุ่มซื้อสินค้าเพื่อเป็นของฝากผู้ใหญ่ที่เคารพในเทศกาลตรุษจีน
หากไล่เลียงตามกลุ่มจะพบว่า กลุ่มที่กินสัดส่วนจำนวนคนมากที่สุดคือกลุ่มเจเนอเรชันที่ 3 แต่หากวัดจากการจับจ่าย กลุ่มไหว้แบบครบถ้วนตามประเพณีดั้งเดิมจะกันสัดส่วนมากที่สุด เช่น ในช่วง 10 วันของเทศกาลตรุษจีน พวกเขามีการจับจ่ายต่อบิลสูงกว่า 4,000 บาท เมื่ออ้างอิงจากฐานสมาชิก M Card ของกลุ่มเดอะมอลล์ที่มีกว่า 6 ล้านคน
ถึงจะปรับเปลี่ยนอย่างไร แต่ตรุษจีนยังเติบโต
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มลูกค้า และปัญหาเศรษฐกิจ แต่สุดท้ายแล้วภาพรวมการจับจ่ายในช่วงตรุษจีนยังเติบโต โดยกูร์เม่ต์ มาร์เกต คาดว่าทั้งตลาดในปี 2025 อาจเติบโตไม่เกิน 5% ใกล้เคียงกับอัตราเดียวกับปี 2024 ส่วนของกูร์เม่ต์ มาร์เกต ตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 10% ผ่านการพัฒนารูปแบบการจำหน่ายให้ตรงกับ 4 กลุ่มดังกล่าว
“จากเดิมที่หลายบ้านนิยมซื้อเป็นเซต ปัจจุบันกลายเป็นซื้อแยกชิ้น และมาจัดเซตกันเองมากขึ้น หรือคิดเป็น 80-85%” ศุภวุฒิ กล่าว แต่หากมองในมุมการซื้อแบบเซตไหว้บรรพบุรุษ หรือซาแซ และโหงวแซ กลุ่มเซตระดับพรีเมียมที่ราคา 3,000 บาทขึ้นไป ยังมีสัดส่วนที่จำหน่ายได้มากที่สุด
นอกจากนี้กูร์เมต์ มาร์เก็ต ยังใช้กลยุทธ์ Holistic Marketing หรือการตลาดแบบองค์รวม ที่สื่อสารการตลาดในแง่มุมต่าง ๆ เช่น โชคลาภ, อายุยืน และสุขภาพ เพื่อจูงใจให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมกับเทศกาลนี้เช่นกัน โดยกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำควบคู่กับกิจกรรมอัญเชิญเทพเจ้ามาให้สักการะที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแค และงามวงศ์วาน
ขณะเดียวกันตรุษจีนปี 2025 ยังตรงกับช่วงนโยบาย Easy E-Receipt 2.0 ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนยอดขายด้วย ทำให้ในปี 2025 เทศกาลตรุษจีนยังเป็นท็อป 5 ของยอดขายในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ของกูร์เม่ต์ มาร์เกต หรือเป็นสัดส่วนราว 3% ของยอดขายทั้งปี 2025
อบรมการขาย คู่ใช้โหรสื่อสารการตลาด
และเพื่อไปถึงเป้าหมายยอดขายช่วงตรุษจีนเติบโต 10% กูร์เมต์ มาร์เก็ต มีการอบรมพนักงานเพื่อสร้างความรู้เกี่ยวกับการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลนี้ เพื่อช่วยเพิ่มความชัดเจนในการให้ข้อมูลกับลูกค้า รวมถึงสร้างโอกาสการอัพเซลผ่านการนำเรื่องความหมายของสินค้าต่าง ๆ มาผูกกันเป็นเรื่องราว
นอกจากนี้ โหร ยังเป็นส่วนสำคัญในการทำตลาด โดยกลุ่มเดอะมอลล์เลือกใช้ คฑา ชินบัญชร โหรชื่อดังเป็นผู้ช่วยสื่อสารการตลาด เช่น การมีส่วนร่วมในการดำเนินการปลุกเสกของที่ระลึกที่ได้จากการซื้อสินค้าตรงตามเกณฑ์ในช่วงเวลาตรุษจีนเป็นต้น ซึ่งกลยุทธ์นี้ดำเนินมาระยะหนึ่งแล้ว และยังไม่มีแผนในการเปลี่ยนแปลง
“ในอนาคตคาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ทั้งการลดลงของสินค้าประเภทกระดาษไหว้ แต่จะมีการเพิ่มขึ้นของสินค้าตกแต่ง เช่น รูปปั้นสิงห์และปลา รวมถึงอาหารพร้อมทาน นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมากขึ้น ทั้งจากไต้หวัน จีน และฮ่องกง พร้อมกับการพัฒนาช่องทางการจัดซื้อโดยตรงจากเกษตรกร”
สำหรับสาขาที่มียอดขายในช่วงตรุษจีนของกูร์เม่ต์ มาร์เก็ต สูงที่สุดคือสาขาเดอะมอลล์ไลฟ์สไตร์บางแค เนื่องจากบริเวณนั้นมีชาวจีนที่เป็นเจ้ากิจการอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก รองลงมาคือสาขางามวงศ์วาน และศูนย์การค้าสยามพารากอน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา