หนึ่งในเรื่องที่วงการรถยนต์ทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนาคือ “รถยนต์ไฟฟ้า” แต่เรื่องนี้เหมือนจะโดดเด่นแค่ค่ายฝั่งตะวันตกเท่านั้น เพราะค่ายญี่ปุ่นมีเด่นๆ แค่เพียงรายเดียว ซึ่งจากนี้จะไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว หลัง Honda เริ่มประกาศเกมรุก
Clarity กับบทบาทตระกูลแห่งความหวัง
แม้ปัจจุบัน Honda มีการผลิต และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ามาประมาณหนึ่ง เพื่อจำหน่ายในหลากหลายประเทศ เช่นในไทยก็มีการทำตลาดรถ Accord เครื่องยนต์ Hybird ที่ใช่เครื่องยนต์สันดาปภายในร่วมกับแบตเตอรี่เพื่อให้พลังงานไฟฟ้า แต่เรื่องความชัดเจนในการบุกตลาดยนต์ไฟฟ้าก็ยังไม่มีมากนัก แถมปล่อยให้ค่ายคู่แข่งลุยตลาดไปก่อนแล้ว
แต่หลังจากนี้ความชัดเจนเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าของ Honda จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังเปิดตัวรถยนต์รุ่น Clarity มาเมื่อปี 2551 ใช้เครื่องยนต์แบบ Hydrogen Fuel-Cell เพื่อทำตลาดในสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และยุโรปบางประเทศ พร้อมวางตำแหน่งเป็น Mid-Size Luxury Car ซึ่งด้วยความใหม่ของเทคโนโลยี จึงเหมือนเป็นการทดลองตลาดรถก่อน
ซึ่งในที่สุด Clarity ก็กลับมาอีกครั้งในปี 2559 ผ่านการปรับโฉม และปรับโมเดลให้มีหลากหลายขึ้น โดยกลางปี 2559 ทาง Honda ได้เปิดตัวรุ่น Electric ที่ใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานอย่างเดียว หรือง่ายๆ ว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่รถยนต์รุ่นนี้ให้เช่าใช้เท่านั้นในตลาดสหรัฐฯ เริ่มต้น 199 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (ราว 6,200 บาท)
ถัดมาช่วงปลายปี 2559 แบรนด์รถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นก็เปิดตัวรุ่น Fuel Cell ตัวใหม่ที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจนผสมกับแผงเชื้อเพลิงที่ปรับปรุงจากรุ่นที่แล้วให้มีขนาดลดลง 33% แต่ให้พลังงานเพิ่มขึ้น 60% เทียบเท่าเครื่อง V-6 เลยทีเดียว สามารถวิ่งได้ไกล 589 กม. แต่รุ่นนี้ก็ให้เช่าใช้เท่านั้น เริ่มต้น 369 ดอลลาร์/เดือน (ราว 11,500 บาท)
และล่าสุด Honda ก็เปิดตัวรุ่น Plug-In Hybrid ที่วางจำหน่ายเป็นรถบ้านเต็มรูปแบบ ซึ่งพอดูรูปลักษณ์แล้วก็คล้ายคลึงกับ Honda Civic รุ่นใหม่ในบ้านเราพอสมควร แต่ตัวนี้จะวิ่งโดยใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดได้ 75.64 กม. และถ้าวัดแบบใช้งานร่วมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ก็จะวิ่งได้ไกลถึง 547 กม.
ส่วนราคาค่าตัวของ Clarity Plug-In Hybrid ที่สหรัฐฯ เริ่มต้นที่ 33,400 ดอลลาร์ (ราว 1 ล้านบาท) ซึ่งรุ่นนี้จะมีมาโชว์ที่งาน Bangkok Motor Show อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 มี.ค.-8 เม.ย. ด้วย ใครที่ชื่นชอบเทคโนโลยีก็อย่าลืมไปลองดูตัวจริงกันได้
ในทางกลับกันหากใครอยากเป็นเจ้าของ คงต้องนำเข้ามาอย่างเดียว เพราะยังไม่รู้ว่า Honda ประเทศไทยจะเอาอย่างไรกับรถยนต์รุ่นนี้
สรุป
การทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงนี้ก็ขับเคี้ยวกันพอสมควร ยิ่งในตลาดไทยใครช่วงชิงตลาดนี้ได้ก่อนก็น่าจะเป็นผู้นำในตลาดได้ อย่างไรก็ตามถ้ามองตอนนี้ “รถยนต์ไฟฟ้า” ก็คงเป็นแค่ของเล่นคนรวยเท่านั้น เพราะมีแต่แบรนด์หรูที่ทำตลาด และคงรอเวลาให้ค่ายญี่ปุ่นนำเข้ามาทำตลาอย่างจริงบ้าง
อ้างอิงเนื้อหา และภาพ // Honda
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา