Citi Mobile Application โฉมใหม่! ยกระดับบริการ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล

ซิตี้แบงก์ตอกย้ำความเป็นธนาคารระดับโลก รุกหน้าปรับโฉม Citi Mobile Application ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง รวดเร็ว ปลอดภัย ใช้งานได้ไร้พรมแดน

โฉมใหม่ทั้งนี้ ต้องมีให้ครบ!

ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้ที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกดิจิทัลตลอดทั้งวัน ทำให้วงการธนาคารเองก็ต้องปรับตัวยกใหญ่ เพื่อรับต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจึงกลายเป็นสงครามการแข่งขันของดิจิทัล แบงก์กิ้งที่ดุเดือดอย่างมาก หลายค่ายต่างงัดหมัดเด็ดเพื่อมัดใจผู้บริโภคให้ได้

ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทยได้รุกตลาดดิจิทัล แบงค์กิ้งมาหลายปีแล้ว แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้ในปีนี้ถึงเวลาปรับโฉม Citi Mobile Application ภายใต้แนวคิด “Freedom to do more” เพื่ออำนวยความสะดวกการใช้งานบัตรเครดิตซิตี้ให้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้นสามารถใช้งานได้ทุกที่ทั่วโลก

ความสำคัญของการปรับโฉม Citi Mobile Application ครั้งนี้ เป็นการให้บริการดิจิทัล แบงก์กิ้งอย่างครบวงจร ไฮไลท์อยู่ที่ฟีเจอร์การสแกนและจ่ายด้วยบัตรเครดิต (Scan and Pay)ผ่านโทรศัพท์มือถือแม้ไม่พกบัตร โดยเป็นการพาร์ทเนอร์กับ Visa

ผู้ถือบัตรเครดิตยังมีช่องทางหลากหลายมากขึ้นในการแลกคะแนนสะสมบัตรเครดิต ผ่านระบบดิจิทัล ด้วยระบบ API หรือทางซิตี้ ไลน์ คอนเนค สร้างความสะดวกสบายโดยไม่ต้องติดต่อผ่านคอลเซ็นเตอร์ให้ยุ่งยาก

รวมถึงฟีเจอร์ทางการเงินอื่นๆ เช่น การทำรายการเปลี่ยนวงเงินบัตรเครดิตให้เป็นเงินก้อนโอนเข้าบัญชีได้อย่างง่ายๆ หรือเปลี่ยนยอดใช้บัตรโดยทำการแบ่งชำระยอดเป็นรายเดือน การระงับการใช้บัตรชั่วคราวและเปิดใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ หรือการเปลี่ยนรหัสเอทีเอ็มผ่านทางโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนี้ยังมีบริการที่ให้ผู้ถือบัตรสามารถค้นหาสิทธิประโยชน์ ไร้พรมแดน Citi World Privileges มากกว่า 11,000 แห่งจากกว่า 90 ประเทศทั่วโลกผ่านเทคโนโลยี Geolocation เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

อยู่มา 50 ปี แต่ไม่เคยหยุดพัฒนา

วีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า

“ธนาคารซิตี้แบงก์ ให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยในประเทศไทยมายาวกว่า 50 ปี และเป็นผู้นำด้านบัตรเครดิต เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าในยุคปัจจุบันที่คำนึงถึงความสะดวกและรวดเร็วในการได้รับบริการ ธนาคารจึงพัฒนาระบบดิจิทัลแบงก์กิ้ง  เพื่อให้ลูกค้าบัตรเครดิตสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ และรับบริการด้านต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และง่ายยิ่งขึ้น โดยสามารถทำรายการต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือด้วยตนเอง

ธนาคารได้ทำการพัฒนาระบบดิจิทัลแบงก์กิ้งอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และในปีนี้ธนาคารได้นำเสนอบริการดิจิตอล แบงก์กิ้งใหม่ๆ สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต เพื่อให้บริการได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นโดยล่าสุดได้ทำการเปิดตัว ซิตี้โมบายล์แอปพลิเคชัน ที่ใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม มีฟังก์ชันการใช้งานสำหรับบัตรเครดิตที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่ๆ อีกมากมายที่ผู้ถือบัตรเครดิตสามารถทำได้ผ่านทางช่องทางดิจิทัล”

ออกแบบด้วยพื้นฐานต้องใช้งานง่าย

ทางด้าน ประทีป คามัคค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายดิจิทัลแบงก์กิ้ง ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า

ซิตี้โมบายล์แอปพลิเคชันได้รับการพัฒนาและปรับโฉมเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานและให้ลูกค้าสามารถจัดการด้านการใช้บัตรเครดิตซิตี้ได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยใช้ระบบโกลบอล แพลตฟอร์มที่มีระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก

มีการออกแบบการใช้งานบนมือถือ (User Interface) ให้ใช้งานง่าย และทำงานได้รวดเร็วขึ้น มีฟีเจอร์สำหรับการใช้บริการบัตรเครดิตที่หลากหลายและครอบคลุมบริการสำคัญๆ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีจุดเด่นสำคัญต่างๆ ดังนี้

  1. มุมมองบัญชีบัตรเครดิตแบบใหม่ ที่รวมทุกบัตรเครดิตที่ลูกค้ามีอยู่ไว้ด้วยกัน ทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลบัตรเครดิตแต่ละใบที่มี อาทิ ยอดใช้จ่าย วงเงินบัตรเครดิตคงเหลือ คะแนนสะสม ยอดเงินที่ต้องชำระ ฯลฯ
  2. ทำให้การชำระเงินค่าบัตรเครดิตของลูกค้าง่ายขึ้น ซึ่งลูกค้าสามารถทำรายการได้ทุกที่ และไม่จำเป็นต้องพกใบแจ้งยอดบัญชีอีกต่อไป โดยลูกค้าสามารถสร้างคิวอาร์โค้ดในซิตี้โมบายล์แอป และใช้คิวอาร์โค้ดนี้ทำรายการชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ผ่านโมบายล์แอปพลิเคชันของธนาคารที่เข้าร่วม หรือใช้คิวอาร์โค้ดหรือบาร์โค้ดในการชำระเงินที่จุดรับชำระบัตรเครดิตต่างๆ ได้อีกด้วย

3. ในส่วนของความปลอดภัยในการใช้บริการ แอปพลิเคชันโฉมใหม่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการด้านการใช้บัตรได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดยลูกค้าสามารถระงับการใช้บัตรชั่วคราวได้เมื่อบัตรหาย และสามารถเปิดใช้งานได้เองทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเปลี่ยนรหัสเอทีเอ็มได้ง่ายๆ ผ่านทางซิตี้โมบายล์แอปฯ โดยไม่ต้องหาตู้เอทีเอ็ม หรือติดต่อ call center เพื่อทำรายการ

ทั้งนี้ ซิตี้แบงก์ ตั้งเป้าหมายให้สัดส่วนผู้ใช้บริการธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าบัตรเครดิตทุกกลุ่ม พร้อมทั้งพัฒนาระบบดิจิทัลแบงก์กิ้งอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมทุกการใช้งานของลูกค้ารายย่อย สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ต่อไปในอนาคตเพื่อตอกย้ำมาตรฐานธนาคารระดับโลก

สรุป

การปรับโฉม และการพัฒนาดิจิทัล แบงก์กิ้งของธนาคารซิตี้แบงค์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความ้ตองการของผู้บริโภคยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง มีการนำ Pain Point ของผู้บริโภคมาปรับใช้ให้ใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะยุคนี้ทุกคนใช้มือถือในการทำทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา