Cisco-Facebook ส่งโซลูชั่นอุดช่องโหว่ Mobility Office คุมคุณภาพงานให้เหมือนมีเจ้านายประกบ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Millennial รวมถึงคนรุ่นหลังจากนี้อยากทำงานอิสระ และไม่ต้องมีใครมาคุมมากมาย ดังนั้น Mobility Office หรือการทำงานที่ไหนก็ได้จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แต่ในฝั่งนายจ้างคงปวดหัวไม่น้อย และไม่รู้ว่าจะคุมคุณภาพงานอย่างไร

ภาพจาก Pixabay.com

สุขภาพจิตพนักงานดี แต่เจ้าของอาจเครียด

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น คนรุ่นใหม่ๆ ชื่นชอบความอิสระ และนั่นก็ส่งผลมาถึงการทำงาน ทั้งกลุ่มคนที่เป็นลูกจ้าง รวมถึกลุ่มที่เป็นเจ้าของกิจการ เพราะพวกเขานำเรื่องความอิสระมาใช้กับงาน คือต้องการทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะทำงานประจำ หรือสำนักงานที่ต้องเข้าไปตอกบัตรทุกวัน

ซึ่งหากทำเช่นั้นได้ สุขภาพจิตของพวกเขาน่าจะดีกว่าการบังคับให้มาตอกบัตรแน่ๆ แต่ฝั่งที่กลับมาเครียดน่าจะเป็นกลุ่มเจ้าของกิจการที่จ้างคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานมากกว่า เพราะห่วงที่จะคุมคุณภาพงานให้มีประสิทธิภาพเหมือนทำงานในสำนักงาน และยิ่ง Tools ในปัจจุบันก็ประยุกต์ใช้ได้ค่อนข้างยาก เมื่อเทียบกับลักษณะองค์กรแบบไทยๆ

บิล เซง ผู้เขี่ยวชาญด้านเทคโนดลยีการทำงานร่วมกันบนคลาวด์ ของ Cisco สาธิตการใช้งานกระดานอัจฉริยะ ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Cisco Spark

บิล เซง ผู้เขี่ยวชาญด้านเทคโนดลยีการทำงานร่วมกันบนคลาวด์ ของ Cisco เล่าให้ฟังว่า จริงๆ แล้วการควบคุมประสิทธิภาพในการทำงานนั้นเริ่มทำได้หลายรูปแบบ เพราะทั่วโลกในปี 2563 จะมีกลุ่มคนทำงานใช้ Mobility Device กว่า 60% ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้เพียงแค่หาโซลูชั่นที่ช่วยมอนิเตอร์การทำงานได้ ก็ช่วยคุมประสิทธิภาพได้ประมาณหนึ่ง

Sharing และ Knowledge Base คือก้าวต่อไป

“หลังจากนี้กลุ่ม Baby Boomer จะลดบทบาทในหน้าที่การงานลงแน่นอน และถ้าองค์กร โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ยังไม่ปรับตัวไปในทิศทางนี้ โอกาสที่จะสูญเสียโอกาสทางธุรกิจก็มีสูง โดยเรื่อง Sharing Economy กับ Knowledge Base คือแนวคิดสำคัญในการก้าวไปสู่การทำธุรกิจ และบริหารงานในยุคใหม่”

สำหรับ Cisco ปัจจุบันเริ่มทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องการทำงานร่วมกัน และทำงานนอกสถานที่มากขึ้น เช่นล่าสุด Cisco Spark ที่รวบรวมอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งที่ใช้ในห้องประชุม เช่นชุดกล้องความคมชัด 5K พร้อมไมค์กับลำโพง สามารถติดตามผู้พูดได้, กระดานอัจฉริยะ ที่ทำให้การประชุมนั้นเข้าใจได้มากขึ้น และทั้งหมดถูกคุมภายใต้ระบบความปลอดภัยชั้นสูง

Facebook Workplace กับการคุยในองค์กร

ขณะเดียวกัน Facebook ก็เริ่มทำตลาดบริการเกี่ยวกับองค์มากขึ้น เช่น Workplace แพลตฟอร์มเชื่อมต่อพนักงานในองค์กรให้คุยกันมากขึ้น สื่อสารกันมากขึ้น โดยอาศัยความได้เปรียบเรื่องแทบทุกคนใช้งาน Facebook ทำให้รูปแบบการสื่อสารนั้นง่ายกว่าเดิม โดยบริการนี้มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 3 ดอลลาร์สหรัฐ/บุคคล หากต้องการใช้เซอร์วิสทั้งหมด

สรุป

เทรนด์การทำงานของ Millennial นั้นแตกต่างกับคนยุคก่อนชัดเจน ดังนั้นการจะทำงานให้ได้ประสิทธิภาพก็ต้องทำความเข้าใจใหม่ด้วย และในฝั่ง Cisco เอง นอกจากสร้างโซลูชั่นของตนเองขึ้นมา ยังเปิด API ให้นักพัฒนาที่สนใจนำไปปรับใช้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่นภาคการศึกษา และสถานพยาบาลด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา