พฤติกรรมคนจีนร่ำรวยเปลี่ยนไป ไม่เน้นซื้อของ แต่เน้นซื้อประสบการณ์
รายงานของ Hurun สถาบันวิจัยด้านความมั่งคั่งของจีน ได้ไปสัมภาษณ์กลุ่มคนจีนผู้ร่ำรวยจำนวน 465 คน โดยเกณฑ์คือต้องมีความมั่งคั่งอย่างน้อย 10 ล้วนหยวน หรือประมาณ 46 ล้านบาทขึ้นไป พบว่า คนจีนที่มีความร่ำรวย-มั่งคั่งในยุคนี้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภคจากในอดีตที่เน้นการซื้อ “วัตถุ” มาเป็นการซื้อ “ประสบการณ์”
รายงาน ระบุว่า คนจีนร่ำรวยยุคใหม่เน้นซื้อประสบการณ์ด้านความบันเทิงผ่านการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยการอ่าน และการชิมอาหารตามลำดับ
Rupert Hoogewerf ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารฝ่ายการวิจัยของ Hurun ให้ข้อมูลว่า “ในอดีต เศรษฐีจีนมักจะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลไปกับการซื้อรถ นาฬิกา และกระเป๋าเพื่อโอ้อวดถึงความสำเร็จ แต่ในปัจจุบันเศรษฐีจีนมักจะทุ่มเงินไปกับกิจกรรมต่างๆ มากกว่า”
ถึงแม้ว่าคนจีนร่ำรวยในยุคใหม่จะเน้นซื้อประสบการณ์มากกว่าสะสมวัตถุเหมือนยุคที่ผ่านมา แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการลงทุน คนจีนส่วนใหญ่ยังเน้นการลงทุนกับสิ่งที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น อสังหาริมทรัพย์ โดยในรายงานระบุว่า แนวโน้มการลงทุนรูปแบบนี้จะคงตัวไปอีก 2 ปีนับจากนี้เป็นอย่างน้อย
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการบริโภคประสบการณ์หรือ “สิ่งที่จับต้องไม่ได้” ของกลุ่มคนร่ำรวยไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในยุคนี้ ความหมายของความร่ำรวยได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เปลี่ยนจากการจ่ายเงินเพื่อซื้อเรื่องวัตถุสิ่งของ ไปเป็นการจ่ายเงินเพื่อเพิ่มพูนทุนทางวัฒนธรรม ซึ่งแน่นอนว่าอาจมองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ แต่มันบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมได้ชัดเจนกว่าการสะสมสิ่งของหรูหรานั่นเอง
- บทความอ่านเพิ่มเติม ยิ่งหรู ไม่ได้แปลว่ารวย คนรวยจริงในอเมริการะดับท็อปเปลี่ยนพฤติกรรมมาบริโภค “สิ่งที่มองไม่เห็น”
ที่มา – Xinhuanet
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา