ทางการจีนนั้นมีความอ่อนไหวโดยเฉพาะค่าเงินหยวนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปีที่ผ่านมาที่ปริมาณเงินสำรองของจีนได้ลดลงเรื่อยๆ ทำให้ทางการจีนปวดหัวกับเรื่องนี้อย่างมาก จนต้องจำกัดวิธีการต่างๆ แต่ล่าสุดทางการจีนนั้นจับขบวนการขนเงินออกนอกประเทศมูลค่ามหาศาลทีเดียว
โดยตำรวจสืบสวนทางเศรษฐกิจได้รวบตัว 7 ผู้ต้องหาได้ที่เมืองเสากวน ซึ่งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง โดยมีบุคคลที่มีเอี่ยวในขบวนการนี้อาจสูงถึง 1 หมื่นคนเลยทีเดียว โดยผู้ต้องหานั้นได้ร่วมกันเปิดบัญชีโดยใช้บัตรประชาชนที่ขโมยมา โดยเปิดบัญชีธนาคารมากถึง 148 บัญชี ตามเมืองต่างๆ ในประเทศจีน และอาศัยเรื่องค่าเงินหยวนบนจีนแผ่น ดินใหญ่กับฮ่องกงซึ่งคนละราคาในการแลกเป็นเงินฮ่องกงดอลล่าร์ เพื่อการทำกำไรด้วย โดยมูลค่าธุรกรรมทั้งหมดมากถึง 2 หมื่นล้านหยวน ซึ่งยังน้อยกว่าในปี 2015 ซึ่งในปีนั้นทางการจีนจับผู้ต้องหาซึ่งมูลค่าธุรกรรมทั้งหมด 4 แสนล้านหยวนเลยทีเดียว
เอาเงินออกผ่านธนาคารใต้ดินนั้นอัตราแลกเปลี่ยนเย้ายวนกว่า
การแลกเงินผ่านธนาคารใต้ดินของจีนนั้นอัตราแลกเปลี่ยนนั้นดูดีกว่าธนาคารทั่วไปของจีน แถมสิ่งที่สำคัญกว่าคือไม่ถามคนที่แลกเงินว่าแหล่งเงินจะมาจากที่ไหน แถมโอนเงินออกได้ไวกว่าธนาคารทั่วไปอีก อ้างอิงจากหนังสื่อพิมพ์ Guangzhou Daily ซึ่งได้รายงานคดีใหญ่รายนี้ เมื่อคิดเบ็ดเสร็จแถมยังไม่ถามที่มาของเงิน ดังนั้นธนาคารใต้ดินเหล่านี้คือคำตอบของประชาชนที่ต้องการโอนเงินออกนอกประเทศโดยผ่านทางฮ่องกง
แมวไล่จับหนูและการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของทางการจีน
กระทรวงรักษาความสงบภายในได้แถลงเรื่องการจับขบวนการลักลอบขนเงินออกประเทศจีนว่าในปีที่แล้ว จับกุมผู้ที่เปิดธนาคารใต้ดินมีมูลค่ามากถึง 9 แสนล้านหยวน ซึ่งโดยทั่วไป ชาวจีนนั้นจะสามารถแลกเงินตราต่างประเทศจำกัดต่อคนประมาณ 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ ดังนั้นจึงทำให้ประชาชนหรือเศรษฐีต่างๆ ที่ไม่ไว้ใจในการเมืองของจีนหรือกลัวการไล่ปราบปรามเรื่องต่างๆ (รวมไปถึงฝั่งตรงข้ามทางการเมือง) จึงต้องใช้วิธีต่างๆ ในการขนย้ายเงินออกนอกประเทศ ซึ่งในกรณีล่าสุดที่เห็นได้ชัดคือการปิดตลาดรับซื้อ Bitcoin เพราะสามารถทำให้โอนเงินออกต่างประเทศได้ไวทันที โดยทางการจีนนั้นตามได้ยากมาก
ซึ่งท้ายที่สุดแล้วการปิดธนาคารใต้ดินในรายนี้อาจไม่ใช่รายสุดท้ายแน่นอน ตราบใดยังมีประชาชนที่ต้องการขนเงินออกนอกประเทศอยู่ ขบวนการขนเงินออกนอกประเทศจีนก็ยังมีอยู่ต่อไป และถึงต่อให้ทางการจีนผ่อนคลายทางการเงินให้ประชาชนสามารถขนเงินออกต่างประเทศได้อย่างเสรี ปัญหาต่อมาคือค่าเงินก็ไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลจีนต้องการอีก เพราะไม่สามารถส่งออกสู้ประเทศอื่นๆ ได้ ฉะนั้นเป็นเรื่องลำบากชนิดกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาก
ที่มา – South China Morning Post, Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา