ยอดการใช้จ่ายในห้างใหญ่ในอังกฤษ ส่วนใหญ่ก็น่าจะมาจากชาวอังกฤษ แต่ปีนี้ห้างชื่อดังอย่าง Harrods กลับมียอดการใช้จ่ายจากชาวจีนมากที่สุด แซงหน้าคนอังกฤษไปเป็นที่เรียบร้อย
ห้างชื่อดังที่มีอายุกว่า 180 ปีมียอดการจับจ่ายของชาวจีนคิดเป็น 10% ของรายได้ ซึ่งชาวจีนส่วนใหญ่นั้นชอบมาซื้อเครื่องประดับ หรือสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดัง อย่างกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ฯลฯ ทำให้ยอดการจับจ่ายของชาวจีนแซงชาวอังกฤษไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่าจาก Brexit ทำให้ชาวจีนมาเที่ยวอังกฤษมากขึ้น
6 เดือนแรกในปี 2017 ที่ผ่านมานั้นมีนักท่องเที่ยวจีนได้มาเที่ยวเกาะอังกฤษสูงถึง 115,000 คน ยิ่งค่าเงินปอนด์ที่อ่อนลงหลังจากประเทศอังกฤษประกาศเรื่อง Brexit ยิ่งล่อตาล่อใจให้นักท่องเที่ยวจีนนั้นมาเที่ยวที่อังกฤษมากขึ้น โดยค่าเงินที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้การมาเที่ยวนั้นถือว่าคุ้มค่ากว่าในอดีตมาก โดยมีผลการวิจัยว่าทุกๆ 5 ปอนด์ของชาวจีนใช้จ่ายนั้นจะเข้าไปที่ห้าง Harrods แต่อย่างไรก็ดีประเทศในทวีปยุโรปที่ชาวจีนชอบไปเที่ยวมากที่สุดนั้นคือฝรั่งเศส โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนถึง 1.8 ล้านคนที่ได้ไปเยือนเมื่อปีที่ผ่านมา
เตรียมปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อต้อนรับชาวจีน
การที่ตัวห้างนั้นได้เม็ดเงินมหาศาส่วนหนึ่งก็มาจากภาพลักษณ์ที่ดูดีจนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศต้องมาเยี่ยมเยือน โดย Shaun Rein ผู้ก่อตั้ง China Market Research Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาในประเทศจีนได้กล่าวไว้ว่า ถ้าเรานำห้าง Harrods ไปตั้งที่จีนย่อมไม่มีทางที่จะดีแน่ๆ มันก็เหมือนกับปารีสที่มีพิพิธภัณฑ์ Louvre เป็นแหล่งท่องเที่ยว ดังนั้นในอังกฤษ ห้าง Harrods ก็เป็นส่วนหนึ่งตรงนั้นเช่นกัน
ภายในเร็วๆ นี้ทางห้างกำลังจะปรับปรุงตัวห้างครั้งใหญ่ อย่างเช่นบันไดหินอ่อนที่จะต่อเติมลงไปถึงชั้นใต้ดิน การเพิ่มโซนนาฬิกาหรู และร้านค้าก็กำลังจะปรับปรุงร้านใหม่อีกด้วย รวมไปถึงช่วงที่ผ่านมานั้นทางห้างได้จ้างพนักงานที่สามารถพูดภาษาจีนแมนดารินถึง 200 คน และกำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้น และทางห้างก็สามารถให้ลูกค้าจ่ายเงินผ่าน Alipay ได้ด้วย และเร็วๆ นี้จะรองรับ WeChat Pay และรวมไปถึงการใช้ Social Media ในจีนเพื่อโปรโมตทางห้างด้วย
ที่มา – Financial Times, Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา