ทุนจีนบุกลาว: ทำสวนทุเรียนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขอเป็นเบอร์ 4 ของโลกส่งออกทุเรียนลาวไปจีน

คนจีน ปลูกทุเรียนในลาว เตรียมส่งออกไปจีน..โมเดลคุ้นๆ เหมือนเกิดขึ้นแล้วในประเทศแถวนี้

อย่างที่เรารู้กันดีว่า จีนคือตลาดบริโภคทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลายประเทศในอาเซียนเดินหน้าปลูกทุเรียนป้อนจีน ก่อนหน้านี้ ไทยเคยประสบปัญหาล้งทุเรียนจีนล้น มีความพยายามปั่นราคาจนทุเรียนสูงเกินไป ไปจนถึงการขายทุเรียนตัดราคากัน..ตอนนี้ ผู้ประกอบการจีนกำลังบุกลาว อาจจะประสบปัญหาเดียวกับไทย หรืออาจจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้

Durian Laos

ลาวคือหนึ่งในประเทศที่กำลังพัฒนาและเป็นหนึ่งในประเทศที่จีนเข้าไปลงทุนจำนวนมาก เช่น รถไฟความเร็วสูง จีนลงทุนราว 6 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2 แสนล้านบาท ลาวมีพรมแดนเชื่อมจีน การจะขนส่งทุเรียนจากลาวไปจีนก็ทำได้โดยง่าย

ผู้ประกอบการจีน เดินหน้าทำธุรกิจจากประเทศอื่นเสิร์ฟคนจีนในจีน

ตัวอย่างจากนักธุรกิจจีน Tao Jian ที่ทำสวนทุเรียนที่ลาว ปลูกทุเรียนราว 50,000 ต้นและเตรียมเก็บเกี่ยวภายในปีนี้ Tao เชื่อว่าลาวจะกลายเป็นแหล่งผลิตทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากไทย, เวียดนาม และมาเลเซีย พื้นที่ที่ Tao เลือกทำสวนทุเรียนเคยมีชื่อเล่นว่าเป็นเมืองหลวงกาแฟมาก่อน ตอนนี้กำลังแทนที่ด้วยราชาแห่งผลไม้ “ทุเรียน” ไปแล้วเรียบร้อย

Tao เห็นปัญหาจากวิกฤตอสังหาฯ ในจีน เขาคิดว่าการออกมาจากจีนน่าจะดีกว่า และค่อยหันมาลงทุนทำธุรกิจอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับจีนเพื่อตอบสนองตลาดจีนที่มีมากถึง 1,400 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ลาวยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้ส่งทุเรียนเข้าตลาดได้ แต่ก็มีรายงานว่าได้มีการหารือกันเรื่องนี้บ้างแล้ว นักลงทุนก็เชื่อว่าจะมีเวลาที่เหมาะสมเช่นกัน

Durian, Chinese

ตลาดใหญ่เกือบ 100% ใครๆ ก็พร้อมเสิร์ฟ โดยเฉพาะคนจีนด้วยกัน

ด้านอธิบดีกรมการเกษตรลาว Bounchanh Kombounyasith ก็เคยกล่าวว่า ทุเรียนลาวจะส่งออกไปจีนได้เร็วๆ นี้ ทั้งสองประเทศกำลังเตรียมเอกสารเพื่อเข้าถึงตลาดอยู่ ซึ่งจีนก็นำเข้าทุเรียนมากถึง 95% ของโลก

ปีที่ผ่านมาก็ซื้อผลไม้จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มูลค่าสูงถึง 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.2 แสนล้านบาท ถือว่าเพิ่มขึ้นกว่าปี 2017 ถึง 12 เท่า

ไทยก็ผลิตทุเรียนเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า ชาวสวนกาแฟของเวียดนามก็เริ่มหันมาปลูกทุเรียนเพิ่ม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และทำให้นักลงทุนเริ่มหันมาหาลาวเพื่อหาทุเรียนไปตอบสนองความต้องการของคนจีนมากขึ้น แน่นอนว่า สวนกาแฟก็กำลังเปลี่ยนเป็นสวนทุเรียนเหมือนในเวียดนาม

ทุเรียนขายได้ตั้งแต่ราคา 10 เหรียญสหรัฐไปจนถึง 100 เหรียญสหรัฐต่อกิโลกรัม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของทุเรียนด้วย และบริษัทจีน Jinguo ของ Tao Jian ก็ไม่ใช่เจ้าเดียวที่บุกลาว

ยังมีบริษัท Jiarun ที่ทำธุรกิจพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของจีนอีกรายก็เข้ามาเล่นในตลาดนี้และยังบอกด้วยว่าเขาจะทำสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จังหวัดอัตตะปือที่ลาวด้วย จังหวัดนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของลาว

บริษัทนี้ทำสัญญาเช่าจากรัฐบาลลาวในปี 2022 มีระยะเวลาเช่ายาวนาน 50 ปี บนพื้นที่ขนาด 5,000 เฮกตาร์หรือประมาณ 31,250 ไร่ เป็นขนาดที่ใหญ่กว่าเซ็นทรัลพาร์คของสหรัฐอเมริกาถึง 15 เท่า ซึ่งก็มีแผนไว้ว่าจะปลูกทุเรียนกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่ด้วย

Durian
Photo by Aiva Apsite on Unsplash

He Ruijun รองผู้จัดการจาก Jiarun กล่าวว่า บริษัทนี้ต้องการที่จะรวมโมเดลเกษตรของจีนเข้ากับทรัพยากรของลาว เอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือดินแดนแห่งโอกาส ไม่เหมือนจีน จีนมีพื้นที่เติบโตที่จำกัด และบริษัทนี้ก็โปรโมตว่าจะทำการเกษตรเชิงฟื้นฟูในพื้นที่นี้ ซึ่งก็หมายความว่าจะทำการเกษตรแบบยั่งยืน คือปลูกทุเรียนไปด้วย ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย เช่น การใช้ปุ๋ยชีวภาพ ฯลฯ

นอกจากบริษัทจีนทั้งสองแห่งที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีบริษัทจากฮ่องกงที่เช่าพื้นที่ในลาวในบริเวณใกล้เคียงกัน ก็เช่าพื้นที่ในลาวตั้งแต่ปี 2022 ขนาด 5,100 เฮกตาร์หรือประมาณ 31,875 ไร่ และตั้งเป้าว่าจะพัฒนาให้เป็นสวนทุเรียนที่เป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศด้วย

จีนทำธุรกิจป้อนจีนในพื้นที่ประเทศอื่น ไม่ว่าประโยชน์จะตกแก่คนท้องถิ่นเต็มๆ

การพยายามของนักธุรกิจจีนที่เข้าไปบุกลาวเพื่อเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนส่งออกไปจีนดังกล่าว รัฐบาลก็หวังว่าลาวจะหลุดพ้นจากความยากจนและเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้ ด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ประเทศโดยปราศจากสารปนเปื้อนไว้ในพื้นที่

ขณะเดียวกันนักวิชาการที่ศึกษาด้านการเพาะปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็กังวลว่า ความหลากหลายของพืชพันธุ์ในลาวจะลดลง บ้างก็กังวลว่าโปรเจกต์ปลูกทุเรียนดังกล่าวจะเกิดผลกระทบเชิงลบที่มาจากการใช้สารเคมีในสวนมากกว่า

โมเดลทำธุรกิจของคนจีน เพื่อคนจีน โดยคนจีน ในพื้นที่ของคนประเทศอื่นกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศที่กำลังพัฒนาไปจนถึงด้อยพัฒนา เช่นในแอฟริกาใต้ ตะวันออกกลาง

การลงทุนอย่างหนักของทุนจีนสร้างปัญหาให้หลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างหนี้ที่ทำให้ลูกหนี้หลายรายจมกับกองหนี้และจีนก็เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว ปัจจุบันมีหนี้ค้างชำระต่อจีนมากถึงล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา – Nikkei

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา