จีนมีแผนเตรียมปล่อยให้รัฐวิสาหกิจ และธุรกิจไม่มีประสิทธิภาพทางธุรกิจล้มละลาย เลิกอุ้มธุรกิจเหล่านี้อีกต่อไป หลังจากใช้เวลาในการช่วยเหลือมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งนโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่จะลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
รัฐบาลจีนเตรียมที่จะปล่อยให้กิจการและรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินธุรกิจไม่มีประสิทธิภาพ หนี้สินเยอะ ล้มละลาย หลังจากที่ใช้เวลามาหลายปีในการอุ้มธุรกิจของภาคเอกชนเหล่านี้ให้เดินหน้าต่อไป ด้วยการให้เงินช่วยเหลือ หรือมาตรการหลายๆ อย่าง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาสภาวะของเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งก็ตาม
สำหรับรัฐวิสาหกิจจีน ในช่วงปลายปี 2019 รัฐบาลจีนมีแผนที่จะปฏิรูปครั้งใหญ่ภายใต้แผนงาน 3 ปี โดยเป้าหมายคือต้องการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรัฐวิสาหกิจของจีนหลายๆ แห่ง นอกจากนี้ยังมีความพยายามที่จะทำให้รัฐวิสาหกิจจีนกลายเป็นผู้เล่นระดับโลกในแต่ละอุตสาหกรรมให้ได้
โดยกลไกลที่รัฐบาลจีนใช้ในช่วงปี 2019 ที่ผ่านมาคือให้เอกชนเข้ามาถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจจีนได้บางส่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ จากทีมบริหารของภาคเอกชนที่เข้ามาถือหุ้น
แต่ในปี 2020 ในช่วงจีนฟื้นจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวกับสื่อในจีนระหว่างการประชุมสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน ว่าเศรษฐกิจจีนหลังจากนี้จะไม่กลับไปใช้ระบบวางแผนเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่จีนจะเน้นการใช้ระบบตลาดเข้ามามีบทบาทกับเศรษฐกิจจีนมากขึ้น ในการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนจะไม่ทนต่อธุรกิจไม่มีประสิทธิภาพต่อไปและระบบตลาดเข้ามามากขึ้น
นอกจากนี้ผู้นำจีนเองยังมีแผนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาในความพยายามลดความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีนลงมา
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา รัฐวิสาหกิจหลายๆ รายของจีนได้ประกาศล้มละลาย หรือไม่ก็ไม่สามารถมีเงินมาชำระหนี้หุ้นกู้ได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจด้านเซมิคอนดักเตอร์ ถ่านหิน ผู้ผลิตยานยนต์ เหมืองแร่ หรือแม้แต่ด้านเหล็กกล้า
ข้อมูลจาก ANZ ปกติแล้วโอกาสที่รัฐวิสาหกิจในจีนจะล้มละลายนั้นมีเพียงแค่ 1% เท่านั้น ต่ำกว่าภาคเอกชนจีนซึ่งอยู่ที่ 9% การล้มละลาย หรือไม่มีเงินชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ ทำให้ตลาดพันธบัตรของจีนปั่นป่วนเป็นระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนมีความหวาดหวั่นว่ารัฐบาลจีนไม่อุ้มธุรกิจเหล่านี้ต่อไป
ขณะเดียวกันธนาคารกลางจีนยังมีโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสวนทางกับธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ
ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้รัฐวิสาหกิจจีนและภาคเอกชนพบกับต้นทุนการเงินที่สูงมากขึ้น ทำให้มีโอกาสอีกรอบที่ธุรกิจไม่มีประสิทธิภาพเหล่านี้จะล้มลงได้อีกรอบ เนื่องจากการระดมทุนทำได้ยากมากขึ้น
มุมมองของ BNP Paribas Asset Management บริษัทจัดการด้านกองทุนรวมจากฝรั่งเศสมองว่า การที่จีนปล่อยให้รัฐวิสาหกิจหรือธุรกิจที่ไม่มีประสิทธิภาพล้มละลายนั้นอาจทำให้นักลงทุนตกใจช่วงหนึ่ง แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อโครงสร้างเศรษฐกิจจีน และมองว่าปัญหาดังกล่าวนั้นจีนสามารถจัดการในเรื่องนี้ได้
ล่าสุดทำให้ภาคธุรกิจในจีนเริ่มหาทางขายธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักออกมามากขึ้น เพื่อที่จะระดมเงินสดให้ได้มากที่สุด แม้แต่บริษัทอย่าง Alibaba เองนั้นล่าสุดก็มีแผนที่จะระดมทุนเพิ่มอีก 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อที่จะเก็บเงินสดไว้ ถ้าหากสภาวะทางเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยจากปัจจัยต่างๆ
ที่มา – Al Jazeera, CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา