จีนคือหนึ่งในประเทศที่มีการเกษียณอายุที่ต่ำที่สุดในโลก จีนมีอายุเกษียณจากการทำงานโดยผู้ชายเกษียณอยู่ที่วัย 60 ปี ผู้หญิงเกษียณที่วัย 50 ปีสำหรับผู้หญิงใช้แรงงาน และ 55 ปีสำหรับผู้หญิงที่เป็นพนักงานบริษัทหรือข้าราชการ เป็นเช่นนี้มาอย่างยาวนานราว 40 ปี แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมามีการปล่อยแผนเศรษฐกิจจีน 5 ปีและได้มีคำแนะนำให้มีการยืดอายุสำหรับการเกษียณเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งการเกษียณอายุของชาวจีนนี้ไม่ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นเวลายาวนานนับ 4 ทศวรรษแล้ว หลายประเทศทั่วโลกจะมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มมากขึ้นตอบรับการมีอายุที่ยืนยาวของผู้คน ในญี่ปุ่น ไต้หวันสามารถเกษียณได้ที่อายุราว 65 ปี
นอกจากนี้ ผลการวิเคราะห์จาก 70 ประเทศโดย Allianz SE ระบุว่า อัตราเฉลี่ยของการเกษียณการทำงานทั่วโลกนั้น พบว่า ผู้ชายเกษียณที่อายุราว 62.7 ปี ส่วนผู้หญิงนั้นเกษียณที่อายุราว 61.3 ปี ซึ่งจีนก็มีคนอายุ 60 ปีขึ้นไปคิดเป็นอัตรา 17% ของประชากรโดยรวม ซึ่งอัตราประชากรโลกที่รายงานโดยองค์การสหประชาชาติปี 2019 พบว่า คนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป มีจำนวนราว 250 ล้านคนทั่วโลก ขณะที่เด็กแรกเกิดจนถึง 4 ขวบมีราว 70 กว่าล้านคนทั่วโลก
อย่างไรก็ดี การพยายามยืดอายุเกษียณของประชาชนคนทำงานนั้น มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงจากผู้ที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณว่ารัฐบาลจีนทำเช่นนี้เพื่อทำให้สิทธิในการเข้าถึงบำนาญของพวกเขาช้าลง ขณะที่คนหนุ่มสาวก็มองว่า การยืดอายุการเกษียณทำให้มีคนทำงานในช่วงวัยอาวุโสมากขึ้น ยิ่งเป็นการลดโอกาสที่พวกเขาจะได้รับการจ้างงาน
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คนที่อายุเพิ่มมากขึ้นก็มีสิทธิที่จะได้รับบำนาญของรัฐ ขณะเดียวกันรัฐก็ต้องมีระบบเกษียณอายุที่ยั่งยืน มีการจัดการที่ดีพอ ซึ่ง Chinese Academy of Social Sciences สถาบัน think tank ของรัฐบาลจีนประเมินจากรายงานสำหรับปีที่แล้วว่า กองทุนบำนาญสำหรับคนทำงานในเมืองสูงจะถึง 7 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 30 ล้านล้านบาทภายในปี 2027 และจะค่อยๆ ลดลงเป็นศูนย์ในปี 2035 (ปี 2019 อยู่ที่ 4.3 ล้านล้านหยวน)
การเพิ่มอายุสำหรับช่วงเกษียณที่ยาวนานขึ้นช่วยทำให้เศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตต่อไป ขณะเดียวกันอัตราประชากรที่เป็นวัยแรงงานก็ค่อยๆ ลดลง เพราะอัตราการเกิดลดลง จีนประเมินว่าผู้คนที่อายุ 60 ปีจะมีจำนวน 487 ล้านคนภายในปี 2050 ขณะที่ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 254 ล้านคน
ทั้งนี้ Wang Feng นักประชากรศาสตร์จากมหาวิทยาลัย California ระบุว่า กลุ่มคนที่เกิดในยุค baby boom หรือช่วงทศวรรษ 1960 มีมากกว่า 200 ล้านคน กำลังจะมีอายุถึง 60 ปีในทศวรรษหน้า ผู้นำจีนจึงไม่มีทางเลือก ดังนั้นจึงเพิ่มอายุผู้รับบำนาญไว้ในแผน 5 ปีที่จะเริ่มนำมาใช้งานในปี 2021 ซึ่งกลุ่มคนจำนวนมหาศาลกำลังจะเป็นช่วงวัยที่จะรับบำนาญภายใน 5 ปีข้างหน้า ถ้ารัฐบาลจีนไม่ทำอะไรตอนนี้ก็จะส่งผลต่องบประมาณการคลังจำนวนมหาศาล
สัดส่วนคนสูงวัยจะเพิ่มขึ้นเกือบ 33% ในปี 2035 จากที่ปีนี้อยู่ที่ราว 17% เรื่องนี้ Wang Xinmei นักเศรษฐศาสตร์ด้านบำนาญจากมหาวิทยาลัย Zhejiang เสนอหนทางที่จะเป็นทางออกคนสูงวัยล้น เงินบำนาญหดหายว่า จะต้องเริ่มจากขั้นตอนง่ายๆ ก่อน ด้วยการหาคนที่มีความสามารถที่จะทำงานยาวนานขึ้น สมัครใจทำงานต่อไป และควรจะเพิ่มระยะเวลาการทำงาแบบปีต่อปีก่อนในช่วงแรก
ที่มา – Aljazeera
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา