แผนใหม่จีน ดันฮ่องกง-มาเก๊า-กวางตุ้ง เป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งใหม่ เตรียมโค่นสิงคโปร์

สิงคโปร์อาจจะถูกโค่น ด้วยแผนใหม่ของจีนที่ดันฮ่องกง-มาเก๊า-กวางตุ้งเป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งใหม่

สิงคโปร์ ศูนย์กลางทางการเงิน
สิงคโปร์ Photo: Shutterstock

ศูนย์กลางทางการเงินแห่งใหม่ของจีน เตรียมโค่นสิงคโปร์

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทางการจีนเผยแผนใหม่ที่มีชื่อว่า Greater Bay Area โดยประกอบด้วยฮ่องกง มาเก๊า และ 9 เมืองในมณฑลกวางตุ้ง ได้แก่ กวางโจว, เซินเจิ้น, จูไห่, ฝอซาน, ฮุ่ยโจว, ตงกวน, จงซาน, เจียงเหมิน และเจ้าชิ่ง

  • แม้ว่าแผน Greater Bay Area ยังไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แต่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่า แผนใหม่ของจีนในครั้งนี้สามารถโค่นล้มสิงคโปร์ได้ เพราะจะกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงิน นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่แห่งใหม่

หนึ่งในนักเศรษฐศาสตร์ที่มองไปในทิศทางนี้คือ Lawrence Loh ผู้อำนวยการของ Centre for Governance จาก NUS Business School โดยระบุว่า แผนใหม่ของจีนได้เปรียบอย่างมากในทางภูมิศาสตร์ เชื่อว่าหากเป็นไปตามแผนนี้จะเกิดการผนึกกำลังในหลายอุตสาหกรรมและหลายตลาด ซึ่งอุตสาหกรรมที่จะถูกท้าทายมากที่สุดในสิงคโปร์ คือ “ภาคการเงิน”

หากดูจากตัวเลขสถิติ ตามแผนของ Greater Bay Area ถือว่าเหนือว่าสิงคโปร์ในหลายด้าน เช่น มีประชากรสูงถึง 71 ล้านคน มากกว่าสิงคโปร์ถึง 12 เท่า นอกจากนั้นยังมี GDP รวมกันประมาณ 1.64 ล้านล้านดอลลาร์ มากกว่าสิงคโปร์ถึง 5 เท่า

ส่วน Tommy Xie หัวหน้าของ Greater China Research จาก OCBC Bank มองว่า แผนใหม่ของจีนจะทำให้ฮ่องกงได้รับผลประโยชน์มากที่สุด เพราะจะกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินใหม่ และแน่นอนจะกลายเป็นความท้าทายแห่งใหม่ของสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางทางการเงิน

Greater Bay Area
Greater Bay Area | Photo: © 2018 Constitutional and Mainland Affairs Bureau

แต่นักเศรษฐศาสตร์บางคนก็ไม่เห็นด้วยกับมุมมองนี้

Duncan Innes-Ker จาก The Economist ให้ความเห็นว่า Greater Bay Area จะไม่เป็นภัยคุกคามสำหรับสิงคโปร์ เนื่องจากฮ่องกงกับสิงคโปร์เป็นเมืองระดับโลก (Global City) ที่ดึงดูดเงินลงทุนและแรงงานทักษะสูงจากทั่วโลกอยู่แล้ว

ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลที่สิงคโปร์จะไม่ได้รับผลกระทบ หรือความท้าทายจาก Greater Bay Area มากนัก เป็นเพราะการที่สิงคโปร์ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน อย่างในปี 2018 ที่ผ่านมา เงินลงทุนในส่วน FinTech อย่างเดียวในสิงคโปร์ก็ได้รับเม็ดเงินสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้าถึง 2 เท่า โดยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 365 ล้านดอลลาร์

ที่มา – Nikkei Asian review, Bayarea

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา