แม้โรคระบาดอย่างโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อจีนอย่างหนักหน่วงในช่วงแรก และยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั่วโลก แต่ปัจจุบันจีนกลับกลายเป็นประเทศที่มีความยืดหยุ่นสูง ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว
จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกแต่ก็ฟื้นตัวได้ค่อนข้างรวดเร็วแม้จะเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตโควิดระบาดมาได้ไม่นาน นักวิเคราะห์มองว่า ผู้กำหนดนโยบายจีนอาจจะต้องเผชิญกับงานยาก ไม่ว่าจะเป็นการพยายามรักษาเสถียรภาพเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไปจนกลายเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับสูง
ทั้งนี้ Xi Jinping กล่าวในที่ประชุมแผน 5 ปีฉบับที่ 14 ระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีศักยภาพเพียงพอ มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง ศักยภาพในการผลิตของจีนค่อนข้างแข็งแกร่ง ตลาดภายในก็มีขนาดใหญ่มาก และยังมีศักยภาพในการลงทุนอีกมาก จีนใช้นโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียนคู่ขนาน (dual circulation policy เป็นนโยบายที่เน้นการพัฒนาเพื่อการบริโภคภายใน ขณะเดียวกันก็เน้นเรื่องการส่งออกไปด้วย)
ยุทธศาสตร์นี้ช่วยให้เศรษฐกิจจีนมีการพึ่งพาตัวเองสูง และเป็นสิ่งที่ทำให้จีนเอาตัวรอดได้ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงรอบทิศทางที่มาจากโควิดระบาดทั่วโลก แหล่งซัพพลายเชนหยุดชะงัก จีนก็เป็นเจ้าใหญ่ๆ ของโลกอันดับแรกที่หยุดชะงักเช่นกัน แต่ผู้บริโภคในจีนยังต้องการบริโภคอยู่ อีกทั้งประชากรจำนวนมหาศาลในจีนทำให้เศรษฐกิจยังไปต่อได้
จีนมองว่า แม้ความท้าทายจากกระแสโลกภิวัตน์และการใช้นโยบายฝ่ายเดียว (unilateralism ที่สหรัฐฯ ชอบใช้) รวมถึงนโยบาย protectionism ที่กำลังมาแรง แต่จีนก็ยังรับมือได้อยู่ จีนจะมุ่งพัฒนาต่อไปมากขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลก การทำให้ชาติทันสมัยขึ้น (rejuvenation) ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายอยู่แล้ว ยังมีอุปสรรคอีกมากที่จีนยังต้องฝ่าฟันต่อไป
ที่มา – Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา