รัฐบาลจีนได้ประกาศแผนเศรษฐกิจฉบับที่ 14 ที่จะใช้ในปี 2021-2025 ซึ่งเรื่องสำคัญคือการพึ่งพาเทคโนโลยีด้วยตัวเอง แต่รัฐบาลจีนได้เน้นย้ำว่าการตัดขาดกับสหรัฐกลับเป็นผลเสียต่อโลก และจะสร้างความร่วมมือแบบ Win-Win ให้มากกว่าเดิม
หลังจากมีการประชุมของผู้แทนระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในวันที่ 26-29 ที่ผ่านมา จีนเองได้ประกาศแผนเศรษฐกิจ 5 ปีฉบับที่ 14 ซึ่งจะมีการนำมาใช้ในปี 2021 จนถึงปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนเองได้พบกับความท้าทายสำคัญในช่วงที่ผ่านมาและเป็นประเด็นสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงถัดไปคือความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศตะวันตกที่นำโดยสหรัฐอเมริกา
ในการประชุมครั้งนี้มีผู้แทนระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้าร่วมมากถึง 198 ราย รวมไปถึงสมาชิกพรรคที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้อีก 166 ราย นอกจากนี้ในแผนเศรษฐกิจฉบับนี้ยังนำแผนปี 2035 ของสี จิ้นผิงมาใช้ด้วย
สำหรับเรื่องสำคัญๆ ที่รัฐบาลจีนเน้นในแผนเศรษฐกิจ 5 ปีฉบับที่ 14 นี้ประกอบไปด้วย
- การเติบโตของ GDP แบบมีคุณภาพ หลังจากที่เศรษฐกิจจีนเติบโตในช่วงที่ผ่านมาในอัตราเฉลี่ยราวๆ 6.5-7% ต่อปี แต่หลังจากนี้นั้นเศรษฐกิจของจีนจะเติบโตแบบมีคุณภาพมากขึ้น (แต่ยังไม่บอกถึงรายละเอียด) นอกจากนี้เป้าหมายของจีนคือทำให้ GDP ต่อหัวของชาวจีนเพิ่มขึ้นเท่ากับประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2035
- พัฒนาเทคโนโลยีแบบพึ่งพาตัวเอง จะเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนนั้นได้แสดงให้เห็นว่าจีนยังต้องการชิ้นส่วนต่างๆ ที่ต้องใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากสหรัฐและพันธมิตร ทำให้แผนเศรษฐกิจฉบับใหม่นี้จีนเองต้องการที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้นการพึ่งพาและพัฒนาเทคโนโลยีเองมากกว่าการพึ่งพาจากชาติอื่น โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านเซมิคอนดักเตอร์
- การปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา ลดความเหลื่อมล้ำของรายได้ระหว่างเมืองใหญ่กับเมืองขนาดเล็ก และประชากรกว่า 56 ล้านคนที่ยังมีความยากจนกว่าในเมืองใหญ่ การปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจ รวมไปถึงการปฏิรูปด้านที่ดิน ที่ก่อนหน้านี้บทวิเคราะห์ของ Credit Suisse คาดว่าจะเป็น 1 เรื่องสำคัญที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญในแผนเศรษฐกิจฉบับใหม่นี้
- การแยกเศรษฐกิจจีนออกมาอย่างโดดเดี่ยวหลังจากมีความขัดแย้งกับสหรัฐนั้น จีนได้ยอมรับในเรื่องดังกล่าวว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำในความเป็นจริง และเรื่องนี้จะสร้างผลกระทบต่อโลกในทางลบด้วยซ้ำ และจีนจะเน้นความร่วมมือแบบ Win-Win มากกว่าในอนาคต
- เรื่องอื่นๆ เช่น การปล่อยก๊าซพิษที่ส่งผลให้โลกร้อนลดลงที่จีนได้รับปากไว้ในเวทีของสหประชาชาติ ปัญหาเรื่องสังคมผู้สูงอายุที่มาพร้อมกับนโยบายลูกคนเดียว ซึ่งรัฐบาลจีนกำลังเร่งแก้ปัญหา ขณะเดียวกันเรื่องของไต้หวันนั้นรัฐบาลจีนได้เน้นไปเรื่องการรวมชาติแบบสันติ การสร้างฮ่องกงให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรม
อย่างไรก็ดีแผนเศรษฐกิจฉบับจริงที่จะนำมาใช้จะยังไม่ผ่านสภาประชาชนจีนก่อนในช่วงต้นปี 2021 ซึ่งจะมีรายละเอียดรวมไปถึงแนวทางการปฏิบัติที่รัฐบาลและรัฐบาลท้องถิ่นนำไปปฏิบัติตามอีกที
ที่มา – Reuters, South China Morning Post, CGTN
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา