มีการคาดการณ์ว่าตลาดค้าปลีกในประเทศจีนจะมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะมีมูลค่าแซงพี่ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาในอนาคตอย่างแน่นอน ภายในสิ้นปีนี้
แม้เศรษฐกิจในประเทศจีนอาจจะมีการชะลอตัวไปบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ในอุตสาหกรรมค้าปลีกนั้น ประเทศจีนเตรียมแซงหน้าสหรัฐอเมริกาขึ้นแท่นเป็นตลาดค้าปลีกชั้นนำของโลกภายในไม่กี่ปีนี้แน่นอน
มีการคาดการณ์โดย eMarketer บอกว่าในปี 2019 ตลาดค้าปลีกในประเทศจีนจะมีการเติบโต 7.5% มีมูลค่า 5.63 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกามีการเติบโต 3.3% มีมูลค่า 5.52 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ นั่นหมายความว่าตลาดค้าปลีกในประเทศจีนจะมีมูลค่าสูงกว่าอเมริกา 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปีนี้
จริงๆ แล้วตลาดค้าปลีกของทั้ง 2 ประทเศก็มีการชะลอตัวกันทั้งสิ้น เพียงแต่สหรัฐอเมริกาเจอวิกฤตมากกว่า มีการเติบโตน้อยกว่า
มีการคาดการณ์ไปจนถึงปี 2022 อีกว่า ตลาดค้าปลีกในจีนจะมีมูลค่าสูงถึง 6.75 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ตลาดค้าปลีกในสหรัฐอเมริกามีมูลค่า 6.03 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ปัจจัยสำคัญที่ทำใตลาดค้าปลีกในจีนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องก็คือ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้บริโภคชาวจีนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีกลุม่คนชั้นกลางเพิ่มมากขึ้นนับล้านคน ทำให้มีกำลังซื้อต่อคนมากขึ้นเช่นกัน
อีกปัจจัยหนึ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และธุรกิจค้าปลีกในจีนก็คืออีคอมเมิร์ซ ประเทศจีนขึ้นชื่อว่ามีตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดการณ์ว่าในปี 2019 จะมีการเติบโตของตลาดอยู่ที่ 30.3% มีมูลค่า 1.98 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และมีสัดส่วน 35.3% ของตลาดค้าปลีกทั้งหมดของประเทศ เป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในโลก
ส่วนสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนของอีคอมเมิร์ซ 10.9% ของตลาดค้าปลีกทั้งหมดเท่านั้น
และภายในสิ้นปี 2019 ประเทศจีนจะครองส่วนแบ่งตลาดของตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกที่ 55.8% คาดว่าจะเพิ่มเป็น 63% ภายในปี 2022 ส่วนสหรัฐอเมริกามีส่วนแบ่งตลาด 17% ของตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลก ตามด้วยสหราชอาณาจักร 3.8% ญี่ปุ่น 3.2% และเกาหลีใต้ 2.4%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา