วัฒนธรรมการบริโภคอาหารแปลกๆ ในประเทศจีน เป็นสิ่งที่เราเห็นกันจนชินตา เพราะความเชื่อว่าจะช่วยให้มีกำลังทำงาน มีอายุยืนยาวขึ้น เป็นเหมือนยาอายุวัฒนะ
แต่วัฒนธรรมการบริโภคอาหารแปลกๆ แบบนี้คงจะค่อยๆ หายไปในเวลาไม่นานเพราะ จีนกำลังจะมีกฎหมายใหม่ที่บังคับใช้ในเมืองเซินเจิ้น โดยห้ามบริโภคสัตว์ป่า สัตว์เลี้ยงภายในบ้าน สัตว์ที่จับมาจากธรรมชาติ สัตว์ที่เลี้ยงเพื่อการแสดง รวมถึงสัตว์ที่ใช้เพื่อการวิจัยในห้องทดลอง ซึ่งกฎหมายใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
ส่วนใครที่กังวลว่ากฎหมายฉบับนี้จะทำให้ไม่สามารถบริโภคสัตว์ชนิดใดได้เลย ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะยังคงมีการอนุญาตให้บริโภคสัตว์อีกหลายประเภท ได้แก่ หมู วัว แพะ ลา กระต่าย ไก่ เป็ด ห่าน นกพิราบ นกขนาดเล็ก รวมถึงสัตว์ที่เลี้ยงในปศุสัตว์ และสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ ที่เลี้ยงเพื่อการบริโภคโดยเฉพาะ ส่วนสัตว์น้ำไม่ได้มีการห้ามในกฎหมายใหม่ฉบับนี้แต่อย่างใด
ผู้ที่ฝ่าฝ่นบริโภคสัตว์ต้องห้าม จะถูกปรับเป็นเงิน 5 ถึง 30 เท่าของมูลค่าสัตว์ที่บริโภคไป ส่วนเจ้าของกิจการที่ฝ่าฝืนขายสัตว์เลี้ยงเพื่อการบริโภคจะถูกปรับเป็นเงิน 3 ถึง 10 เท่า ของรายได้ที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย นอกจากนี้ความผิดจะยังถูกบันทึกไว้ในระบบ Social Credit ของประเทศจีนด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามนักกิจกรรม และองค์กรคุ้มครองสัตว์ในประเทศจีนมองว่า กฎหมายใหม่ที่ออกมาไม่สำคัญเท่าการบังคับใช้อย่างเคร่งครัดของเจ้าหน้าที่ ประกอบกับกฎหมายยังมีช่องโหว่บางส่วนอยู่ โดยเฉพาะการใช้สัตว์เพื่อการวิจัย และการแพทย์ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นช่องทางในการนำเข้าสัตว์ผิดกฎหมายได้เช่นเดิม
David Olson ผู้อำนวยการกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ประจำฮ่องกง (WWF) กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลจีนต้องการหยุดการค้าขายสัตว์บางชนิดในตลาดสด โกดัง รวมถึงอินเตอร์เน็ต เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคระบาดอย่างรุนแรงที่เกิดจากสัตว์ในอนาคต เช่น โรคซาร์ส อีโบลา เมอร์ส และไข้หวัดนก ซึ่งล้วนแล้วเป็นโรคระบาดที่มีต้นตอจากสัตว์ทั้งสิ้น
ที่มา – SCMP
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา