ชธ. เชฟรอนและบริษัทร่วมทุน มอบรถพยาบาลฉุกเฉินแก่โรงพยาบาลเกาะพะงัน เพราะการช่วยชีวิตสำคัญที่สุดและรอช้าไม่ได้

เรื่องความช่วยเหลือต่อชีวิต เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการให้เกิดขึ้น แต่ต้องยอมรับว่ามีหลายพื้นที่ห่างไกล ที่อาจมีข้อจำกัดด้วยระยะทางและอุปกรณ์ที่ไม่เพียงพออยู่บ้าง

จุดนี้คือสิ่งที่ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ร่วมกับบริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทร่วมทุนแปลงสำรวจหมายเลข B8/32 อันประกอบด้วย บริษัท มิตซุยออยล์ เอ็กซพลอเรชั่น จำกัด บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท พลังโสภณ จำกัด และบริษัท คริสเอ็นเนอร์ยี่ (กัลฟ์ ออฟ ไทยแลนด์) จำกัด เห็นถึงความสำคัญของการมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่พร้อม จึงได้ร่วมกันมอบรถพยาบาลเคลื่อนที่ขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตฉุกเฉิน 1 คัน มูลค่ากว่า 1.9 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการให้บริการกับประชาชนในพื้นที่

รถพยาบาลเคลื่อนที่ขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตฉุกเฉิน จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับโรงพยาบาลในการรับส่งผู้ป่วย ซึ่งรวมถึงการส่งผู้ป่วยหนักไปยังโรงพยาบาลระดับภูมิภาคเพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่ทันท่วงทีต่อไป

อรรจน์ ตุลารักษ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายโครงการร่วมทุน บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด บอกว่า โรงพยาบาลเกาะพะงัน เป็นโรงพยาบาลที่มีความสำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่เกาะพะงันและเกาะเต่า ในฐานะตัวแทนของบริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทผู้ร่วมทุน การส่งมอบรถพยาบาลฉุกเฉินเคลื่อนที่ให้กับโรงพยาบาลเกาะพะงัน สามารถอำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ทั้งนี้ ได้รับความเห็นชอบจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน โดยบริษัทฯ ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทางโรงพยาบาล ทั้งในการจัดซื้อและดัดแปลงรถเป็นรถพยาบาลฉุกเฉินที่ได้คุณภาพ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมือครุภัณฑ์การแพทย์ช่วยชีวิตฉุกเฉินอย่างครบครัน โดยเป็นรถแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ จึงสามารถเข้าถึงพื้นที่เนินเขาที่มีความลาดชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

สำหรับรถพยาบาลฉุกเฉินคันนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,935,523 บาท และสามารถบรรทุกผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ได้ไม่น้อยกว่า 5 คน และมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับการออกแบบติดตั้งตามข้อกำหนดของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินทุกประการ พร้อมด้วยระบบไฟและเสียงสัญญาณตามที่กฎหมายกำหนด และได้ดำเนินการขออนุญาตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นี่เป็นเพียงความช่วยเหลือหนึ่งที่เชฟรอนและบริษัทผู้ร่วมทุน ต้องการส่งต่อบริการทางการแพทย์ให้กับประชาชนในพื้นที่ และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับการให้บริการของโรงพยาบาลและคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา