กระแสการกินดื่มกลับมาคึกคักเต็มที่อีกครั้งในปี 2023 หลังการเปิดประเทศ เปิดการท่องเที่ยว สถานการณ์โควิด-19 ไม่ได้น่ากลัวเช่นเดิม ช่วงเวลาแห่งเทศกาลต่างๆ กำลังกลับมา และไตรมาส 2 ปีนี้จะมีการเลือกตั้งทั่วไป เรียกว่าสถานการณ์ในภาพรวมของไทยปีนี้เป็นแรงบวกให้กับหลากหลายกิจกรรม ทำให้การ “กินดื่ม” ถูกจับตาว่าจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
กระแส Low Energy เพิ่มโอกาสการกินดื่ม
เลสเตอร์ ตัน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า กระแสที่น่าสนใจคือ Low Energy หรือการกินดื่มแบบเบาๆ ชิลๆ เน้นนั่งพูดคุย ฟังเพลง และดื่มกันไปยาวๆ ซึ่งตอนนี้กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นรูปแบบที่ตรงข้ามกับ High Energy ที่เน้นความสนุกสนาน รื่นเริงแบบเต็มที่
“ส่วนหนึ่งอาจเพราะจากโควิด 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคคุ้นเคยกับการกินดื่มแบบเบาๆ ชิลๆ กับตัวเอง กับเพื่อนกลุ่มไม่ใหญ่ การไปนั่งร้านสบายๆ ขยายไปจนคอนเสิร์ตสไตล์นั่งเล่น นอกจากนี้ผู้บริโภคแต่ละคน มีความต้องการในแต่ละวันที่ไม่เหมือนกัน ทำให้กระแส Low Energy เพิ่มมากขึ้น ขยายโอกาสใหม่ๆ และเป็นอีกรูปแบบที่ตลาดให้การตอบรับ”
สำหรับช้าง ได้มีการผลักดันผลิตภัณฑ์ ช้าง โคลด์ บรูว์ (Chang Cold Brew) เข้ามาเน้นตลาดในส่วนนี้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มตลาดเบียร์แมสพรีเมียม ที่มีมูลค่าตลาดกว่า 25,000 ล้านบาท มีการเติบโต 10% โดยทางช้าง ได้เตรียมงบการตลาดกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อสร้างการเติบโต
3 จุดเด่น ช้าง โคลด์ บรูว์ บุกตลาดทั่วประเทศ
สำหรับตลาดเบียร์แมส มีช้างคลาสสิคเน้นทำตลาดอยู่แล้ว ส่วนตลาดแมสพรีเมียมจะใช้ ช้าง โคลด์ บรูว์ เป็นหลัก โดยมี 3 จุดเด่นสำคัญ คือ
- โปรดักส์ หรือตัว ช้าง โคลด์ บรูว์ ที่มีเอกลักษณ์คือใช้ส่วนผสมมอลต์ 100% และมีกระบวนการผลิตแบบ Sub Zero Filtration ที่อุณหภูมิ -2 องศาเซลเซียสเพื่อให้ได้ความนุ่มและหอมมากขึ้น เหมาะกับการดื่มแบบ Low Energy
- นวัตกรรมของบรรจุภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความหลากหลาย เช่น กล่องที่สามารถบรรจุกระป๋องได้จำนวนมากขึ้น หรือ ถังขนาด 5 ลิตรเพื่อให้ได้ปริมาณที่พอเหมาะ
- ขยายช่องทางจำหน่ายให้ครบถ้วนและครอบคลุมทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมา ช้าง โคลด์ บรูว์ เน้นที่ on Trade หรือ ร้านนั่งดื่ม กับ Modern Trade เป็นหลัก แต่จากนี้จะเน้น Traditional Trade อย่างเต็มที่ เพื่อขยายฐานทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
เป้าหมายในปี 2566 ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งสัดส่วนพอร์ตเบียร์แมสพรีเมียมของช้างเป็น 15% ภายในปีนี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา