วิเคราะห์ เมื่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Apple ถูกท้าทายจากคู่แข่งมากขึ้นเรื่อยๆ

ความท้าทายของ Apple ในอนาคตเมื่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ไม่ใช่ iPhone หวังจะเป็นรายได้มาเพิ่มเติม โดนท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกกลุ่ม แล้วทางออกของ Apple คืออะไร

ภาพจาก Unsplash

หลังจากที่ Apple ได้รายงานผลประกอบการล่าสุดไปแล้วนั้น รายได้ของบริษัทลดลงถึง 5% นอกจากนี้ความกังวลของนักลงทุนคือยอดขาย iPhone ที่ลดลงถึง 15% และยอดขายจากประเทศจีนที่เป็นตลาดสำคัญของ Apple เองก็ลดลงถึง 27% ด้วย

แม้ว่า Tim Cook เองจะออกมากล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัทว่าเป็นเรื่องปัญหาระยะสั้นก็ตาม แต่ Apple เองก็ยังเป็นบริษัทที่แข็งแกร่ง แต่ในอนาคตของ Apple แล้วอะไรที่จะมาเป็นตัวเร่งตัวใหม่ให้กับบริษัทอีกครั้ง แทนที่ iPhone ซึ่งปัจจุบันรายได้ของ Apple มาจาก iPhone ถึง 60% แต่รายได้อื่นๆ ที่จะมาช่วย Apple นั้นกลับโดนท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ

Wearable ที่ยังเป็นคำถาม

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น Apple Watch รวมไปถึง AirPods ที่ยังขายดีอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องด้วย Apple Watch ยังต้องเชื่อมต่อกับ iPhone เสียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งที่ทำ Wearable หลายๆ ยี่ห้อพร้อมที่จะเป็นคู่แข่งแถมยังเชื่อมต่อได้ทั้ง Android และ iOS อีกด้วย

ความท้าทายหลังจากนี้ Apple จะมีทิศทางกับสินค้ากลุ่ม Wearable ไปทางไหน จะเน้นหลากหลายมากขึ้นเพื่อออกไปสู้กับคู่แข่งหรือไม่ หรือว่าจะเน้นผลิตสินค้าราคาสูงคล้ายกับ Apple Watch ไปเลย

ภาพจาก Unsplash

App Store โดนท้าทาย

แม้ว่า App Store จะเป็นแหล่งสร้างกระแสเงินให้กับ Apple มานาน ล่าสุดมีรายได้ประมาณ 18,200 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ในช่วงหลัง Application ต่างๆ ที่เริ่มใช้บริการซื้อแอพผ่าน App Store หรือแม้แต่บริการที่ต้องจ่ายเงินรายเดือน เช่น Netflix หรือ Spotify ก็เริ่มหันมาให้จ่ายเงินผ่านระบบของตัวเอง เพื่อที่เม็ดเงินจะได้เข้ากระเป๋าอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่โดน Apple หักไปมากถึง 30%

ความท้าทายหลังจากนี้คือถ้าหาก Application ต่างๆ เริ่มใช้ระบบจ่ายเงินซื้อแอพหรือแม้แต่บริการที่ต้องจ่ายเงินรายเดือนอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว อาจทำให้ Apple ลำบากไม่น้อย

ภาพจาก Unsplash

เปิดมากขึ้น (มาช้ายังดีกว่าไม่มา)

ถึงแม้ Apple จะเริ่มเปิดขยายบริการของตัวเองออกนอกระบบ iOS และ macOS มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Apple Music ที่ปัจจุบันผู้ใช้ Android สามารถใช้บริการได้ รวมไปถึงล่าสุดจับมือกับ Samsung ในการนำ iTunes กับ Airplay สามารถใช้ในทีวีของ Samsung ได้

ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ Apple ทำนั้นเป็นการหารายได้จากลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ให้มาใช้บริการของ Apple และยังรวมไปถึงล่าสุดที่มีข่าวลือว่าบริษัท อาจเปิด Platform บริการ Streaming ภาพยนตร์แข่งด้วย ถ้าหากเราดูท่าทีของ Apple แล้วก็มีความเป็นไปได้สูงว่าถ้าหากบริการนี้เปิดตัวจริงๆ แล้ว Apple จะต้องหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ อย่างที่กล่าวไว้แน่ๆ

อย่างไรก็ดีการที่ Apple เปิดมากขึ้นก็ย่อมพบกับคู่แข่งที่ยึดครองตลาดนี้ไว้แล้ว เช่น Netflix และ HBO Go หรือแม้แต่ Spotify รวมไปถึงผู้ที่จะมาท้าชิงเช่นแพลตฟอร์ม Streaming เช่น Disney+ ด้วย

ภาพจาก Pixabay

(ทางออกแบบมองนอกกรอบ) ใช้เงินซื้อกิจการอื่นไปเลย?

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าผลิตภัณฑ์ของ Apple เริ่มโดนท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้บริษัทอาจต้องหาทางออกในการหาสิ่งใหม่ๆ แก่บริษัท ด้วยเงินสดมหาศาลของ Apple ทำให้บริษัทอาจใช้เงินสดที่มีอยู่ซื้อกิจการคนอื่น เพื่อที่จะแก้ปัญหาทางตันหลังจาก iPhone กำลังจะกลายเป็นแค่ผลิตภัณฑ์ธรรมดา ที่ยอดขายอาจไม่เติบโตเหมือนเดิม

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่าบริษัทสนใจที่จะซื้อกิจการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ข่าวลือในการซื้อกิจการของ Tesla ของ Elon Musk หรือแม้แต่ Netflix ก็เคยเป็นข่าวลือด้วยเช่นกัน

แต่ทุกขลาภของ Apple คือการที่จะหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ด้วยการซื้อกิจการ อาจโดนโก่งราคาแสนแพงแน่ๆ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ