ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนพ.ค. 2562 ชะลอตัวหลายด้านเพราะอะไร?
เศรษฐกิจไทยเดือนพ.ค. 2562 หดตัวทั้งส่งออก-ลงทุนเอกชน-ท่องเที่ยว
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เศรษฐกิจไทยเดือนพ.ค.2562 ชะลอตัวจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่
- การลงทุนภาคเอกชนหดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เห็นได้จากการลงทุนในหมวดก่อสร้าง และยอดขายวัสดุก่อสร้างที่หดตัวลง ด้านการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์หดตัวตามยอดจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศและยอดจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เพราะยอดขายปีก่อนเป็นฐานสูง
- การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวเช่นกัน สาเหตุเพราะรายจ่ายประจำที่หดตัวจากผลของฐานสูงในปีก่อนซึ่งปีนี้รายจ่ายลงทุนยังขยายตัวตามการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมชลประทาน ที่จะเริ่มก่อสร้างหลังการทบทวนโครงการลงทุนตามแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ
- มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัว 7.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะอุปสงค์ในตลาดโลกชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า และได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนที่ลดลงได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่กลับมาหดตัวกระทบกับสินค้าที่ส่งออกหลายหมวด เช่น สินค้าที่ราคาขยับตามราคาน้ำมันดิบ อย่าง สินค้าเกษตร ยานยนต์และชิ้นส่วน (รถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์เชิงพาณิชย์)
- มูลค่าการนำเข้าสินค้า หดตัวเล็กน้อยที่ 0.2% จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการนำเข้าทองคำที่หดตัวสูง โดยหากหักทองคำขยายตัวที่ 1.1% จากการนำเข้าสินค้าในหมวดวัตถุดิบและสินค้า
- จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศหดตัวเล็กน้อยที่ 1.0% เป็นผลจากกท่องเที่ยวจีนที่หดตัวต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอลง
อย่างไรก็ตามแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย ยังต้องพึ่งพาการบริโภคภาคเอกชนที่เดือนพ.ค.เติบโต ต่อเนื่องจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ยกเว้นหมวดสินค้าคงทนที่ทรงตัวจากปีก่อน ทั้งนี้จะเห็นว่ารายได้ครัวเรือนในภาคเกษตรกรรม
ด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ต้องจับตาเงินเฟ้อทั่วไปที่ปรับลดลตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลง ปัจจุบันเงินเฟ้อทั่วไปอยูที่ 1.15% ลดลงจากต้นปี 2562 ที่อยู่ระดับ1.23% นอกจากนี้ต้องจับตาราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับลดลง สำหรับอัตราการว่างงานที่ปรับฤดูกาลทรงตัวจาก ขยายตัวจากผลผลิตและราคา ส่วนรายได้ลูกจ้างนอกภาคเกษตรกรรมทรงตัว ไม่เติบโตหรือหดตัว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา