รู้กันอย่างกว้างขวางว่า หนึ่งในตลาดที่เติบโตมากที่สุดหลังโควิด-19 คือ ตลาดสุขภาพและความงาม ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างล้นหลาม แต่หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่า หนึ่งในตลาดย่อยที่เติบโตมากที่สุด คือ ‘ตลาดเวชสำอาง’ แต่เพราะอะไร? ชวนอ่านเรื่องราวจาก ‘ธวัชชัย บุญทวีกิจ’ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ Cetaphil
เวชสำอางโตแรง 20% เพราะฝุ่นควันมลพิษ
- ตลาดสกินแคร์โดยรวมขยายตัวได้ดี
- ตลาดเวชสำอางเติบโตต่อเนื่อง คาดปีนี้เติบโตมากกว่า 20%
สาเหตุมาจากผู้บริโภคเองตื่นตัวกับการดูแลตัวเองและใส่ใจกับการเลือกใช้สินค้ามากขึ้น เพราะ
- สภาพแวดล้อมมลภาวะฝุ่นควันเพิ่มมากขึ้น
- ช่องทางจำหน่ายออนไลน์เติบโตมากขึ้น
ขณะเดียวกันจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ในตลาดสกินแคร์พบข้อมูลอินไซต์น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ
- ผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิวที่ดี ต้องไม่ทำร้ายผิว
- ผู้บริโภคมองหาสินค้าที่เชื่อถือได้
- ผู้บริโภคมองหาสินค้าดูแลสุขภาพผิวแบบองค์รวม
- ผู้บริโภคได้รับอิทธิพลจากสื่อและคอนเทนต์ ทำให้หันมาดูแลผิว สร้างความมั่นใจ เสริมภาพลักษณ์
- ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับขั้นตอนการล้างหน้าทำความสะอาดผิว เพราะกังวลมลภาวะจะทำร้ายทำลายผิว ทำให้เกิดผดผื่นคัน แสบแห้ง หรืออุดตัน
ดังนั้น การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเพื่อการแก้ปัญหาและดูแลผิวหน้าอย่างตรงจุด ควรเลือกสูตรที่เหมาะกับผิวหน้า เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงตามสภาพผิวถือเป็นการทำร้ายผิวทางอ้อม ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ดีควรปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อย่างเช่นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคลีนเซอร์ เป็นต้น
Cetaphil จะโตกว่าตลาด ขายดีอันดับ 1 คือ คลีนเซอร์
ผู้บริหารเชื่อว่า Cetaphil จะเติบโตมากกว่าตลาดในปีนี้ (หรือเติบโตมากกว่า 20%) จากสถานการณืมลภาวะที่รุนแรงและสินค้าใหม่ที่ออกมานำเสนอให้ลูกค้า โดยที่ผ่านมา เห็นเทรนด์การเติบโตของสินค้ากลุ่มเวชสำอางมากขึ้นต่อเนื่องขึ้น
สินค้าของแบรนด์ Cetaphil ที่ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากที่สุด ได้แก่
- อันดับ 1 คือ คลีนเซอร์
- อันดับ 2 คือ มอยซ์เจอไรเซอร์
- อันดับ 3 คือ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ
เมื่อประกอบกับสถานการณ์มลพิษแล้ว Cetaphil จึงออกสินค้าใหม่อย่าง CETAPHIL HYDRATING FOAMING CREAM CLEANSER (เซตาฟิล ไฮเดรทติ้ง โฟมมิ่ง ครีม คลีนเซอร์) คลีนเซอร์ทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกาย เน้นตอบโจทย์ คนเมืองและคนที่ต้องการดูแลผิวหน้าเป็นพิเศษ เพราะการทำงานและใช้ชีวิตในแต่ละวันต้องผจญกับปัญหาฝุ่นควัน ทำให้เกิดสัญญาณแห่งวัย เช่น ริ้วรอย ความเหนื่อยล้าของผิว ทำลายเกราะป้องกันผิว ก่อให้เกิดฝ้า กระ รวมถึงอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวด้านอื่น ๆ เช่น คัน แสบ แดง และเกิดสิว
ขยายช่องทาง TikTok โลกยุคใหม่อินฟลู-ลูกค้ารู้เข้มข้น
ด้านช่องทางจำหน่ายแบรนด์ยังได้ลุยเข้าไปใน TikTok มากขึ้น เพราะเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคเติบโตมากและมีการสร้างคอนเท้นต์ในหมู่ผู้บริโภคด้วย สัดส่วนยอดขายบนช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อรวมกับออฟไลน์กลายเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ในขณะที่พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปในมิติที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรมากขึ้น โดยส่วนใหญ่มองหาสินค้าที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ ตรงกับปัญหา เพราะผู้บริโภครู้เท่าทัน และมีข้อมูลมากขึ้นกว่าในอดีต ขณะที่อินฟลูเอนเซอร์สายความรู้เกี่ยวกับสกินแคร์ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและคุยกันในเชิงลึกมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทำให้ทุกฝ่ายตื่นตัวมากขึ้น สร้างการรับรู้ตลาดให้กว้างขวางขึ้นด้วย
ข่าวเกี่ยวข้อง : Mintel เผยพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ใส่ใจตัวเอง เลิกซื้อสิ่งไม่จำเป็นเพราะรู้สึก ‘เหนื่อยเกินไป’
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา