ใครจะแบนจีนก็แบนไป แต่ ‘Uniqlo’ ขอไม่ร่วมขบวนการด้วย
ปัจจุบัน แบรนด์ระดับโลกหลายๆ เจ้าเริ่มหันมาใช้กลยุทธ์ ‘China Plus One’ ซึ่งเป็นวิธีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ นอกจากจีน เช่น อินเดียหรือเวียดนาม
ปัจจัยสำคัญในการใช้กลยุทธ์นี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรที่ไหน แต่คือวิกฤตทางเศรษฐกิจที่จีนกำลังเผชิญ ประกอบกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยเฉพาะตอนนี้ที่ ‘Donald Trump’ ใกล้จะขึ้นมาเป็นประธานธิบดี และพร้อมขัดขวางสินค้านำเข้าจากจีนเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ‘Tadashi Yanai’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ‘Fast Retailing’ บริษัทแม่ของ Uniqlo ออกโรงขอไม่เข้าร่วมกลยุทธ์ China Plus One และเชื่อว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างโรงงานในประเทศอื่นให้มาแทนที่จีนได้
Yanai เผยว่า Fast Retailing เติบโตมากับอุตสาหกรรมสิ่งทอของจีน ลองผิดลองถูกกันมาเยอะ และต่อให้แบรนด์ระดับโลกเจ้าอื่นจะพากันหันหลังให้ประเทศนี้แล้ว แต่พวกเขายังเห็นความสำคัญของจีนอยู่
โรงงานเวียดนามไม่มีทางสู้จีนได้
Fast Retailing เป็นพาร์ทเนอร์กับโรงงานผลิตสิ่งทอประมาณ 397 แห่ง แต่ตั้งอยู่ในจีนไปแล้ว 211 แห่ง ตามด้วยเวียดนาม (61 แห่ง) และบังกลาเทศ (26 แห่ง)
ทั้งนี้ Yanai มองว่า ยังไงโรงงานเวียดนามก็ไม่มีทางดีเท่าจีนได้ ยกเว้นเขาจะส่งทีมงานจากญี่ปุ่นจำนวนมากไปช่วยที่นั่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของ Fast Retailing อยู่แล้ว เพราะบริษัทมีนโยบายส่งผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นไปช่วยสอนบุคลากรในโรงงานต่างประเทศ
Yanai ยอมรับว่า โรงงานบางประเทศทำงานไม่ค่อยดีจริงๆ เมื่อเทียบกับจีน และแม้ว่าโรงงานเหล่านั้น จะผลิตผ้าคุณภาพแย่ๆ ออกมา ก็ยังสามารถส่งขายแบรนด์อื่นในยุโรปกับสหรัฐฯ ได้ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว พวกเขาเคร่งครัดเรื่องคุณภาพของเสื้อผ้ามากกว่าราคา
ต่อให้ต้องขยายสาขาไปประเทศอื่น จีนก็ยังเป็นตลาดหลัก
ปีนี้เป็นปีที่ Uniqlo มีอายุครบ 40 ปี และยังเป็นปีแรกที่ Fast Retailing ทำยอดขายรวมจากทุกแบรนด์ในเครือได้เกิน 6.8 แสนล้านบาท (3 ล้านล้านเยน) หลังปิดงบไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2024
ด้วยเหตุนี้ เป้าหมายถัดไปของ Yanai คือยอดขาย 2.3 ล้านล้านบาท (10 ล้านล้านเยน) ซึ่งเขารู้ดีว่า การจะทำให้ถึงเป้านั้น ต้องวางแผนใหม่ๆ และคงใช้กลยุทธ์เดิมตลอดไปไม่ได้
Yanai กล่าวว่า “เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขยายสาขาไปต่างประเทศมากขึ้น พร้อมกับเปิดรับบุคลากรมากความสามารถจากทั่วโลก”
โดยปีนี้ Fast Retailing สามารถเพิ่มยอดขาย 45% และ 33% ด้วยการขยายกิจการในยุโรปและอเมริกาเหนือตามลำดับ
แม้บริษัทจะพยายามขยายไปยังโซนตะวันตกมากแค่ไหน Yanai ก็ยังไม่ลืมจีนที่เป็นตลาดสำคัญ เพราะในปีนี้ รายได้จากจีน ฮ่องกง และไต้หวันนับเป็น 22% ของรายได้ทั้งหมด น้อยกว่าที่ 1 อย่างญี่ปุ่นเพียง 8%
“จีนยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก พวกเราเพิ่งมาได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น” ประธานบริษัท Uniqlo กล่าว
ที่มา: Nikkei Asia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา