ทำไม “เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค”ต้องปั้น “Dolfin Wallet” สู้ศึก e-Wallet ในไทย

เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค จับมือร่วมกับธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย เปิดตัว Dolfin Wallet ลงมาเขย่าตลาดอีวอลเล็ทในไทย แต่ตอนนี้ต้องรอไลเซนส์จากแบงค์ชาติก่อน

ทำไมต้อง Dofin Wallet

ในประเทศไทยพูดถึง Cashless Society กันมาไม่ต่ำกว่า 5 ปีแล้วเห็นจะได้ ซึ่งทั้งทางภาครัฐ และเอกชนได้ผลักดันทั้งการใช้งานผ่านแพลตฟอ์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่น e-Wallet หรือการพัฒนา QR Payment เพื่อให้เข้าสู่สังคมไร้เงิสดอย่างแท้จริง

ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีผู้เล่นในตลาด e-Wallet เข้ามามากมาย ปัจจุบันมีผู้เล่นรายใหญ่ๆ ประมาณ 2-3 ราย ได้แก่ True Money Wallet, Rabbit LINE Pay, Blue Pay และยังมีรายย่อยๆ ที่เป็นของผู้เล่นค้าปลีก ส่วนใหญ่เป็นระบบปิดที่สามารถใช้ได้แค่ระบบของตัวเองเท่านั้น

ในตอนนี้ได้มี Dolfin Wallet เข้ามาเขย่าตลาดอีกหนึ่งราย ภายใต้การบริหารของเซ็นทรัล เจดี มันนี่ ในเครือเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง เป็นความร่วมมือของกลุ่มเซ็นทรัล กับ JD.com ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซในประเทศจีน มีมูลค่าการลงทุนกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทำไมกลุ่มเซ็นทรัล และกลุ่มเจดี ถึงเลือกที่จะปั้น Dolfin Wallet ขึ้นมาในประเทศไทย?

  1. โอกาสของตลาด e-Wallet ในไทยยังมีอีกมาก เพราะยังไม่มีเจ้าตลาดชัดเจน แต่ละรายให้ใช้ e-Wallet แค่ภายในอีโคซิสเท็มของตัวเองเท่านั้น

2. JD Digital มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล มีการร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัลทั้งในเรื่องอีคอมเมิร์ซ รวมถึงเรื่องฟินเทค ใช้ Know How ที่แข็งแกร่งจากประเทศจีนมาปรับใช้

3. เหตุผลที่ใช้ชื่อว่า Dolfin Wallet เพราะว่าเป็นชื่อที่น่ารัก โลมาเป็นสัตว์ที่สื่อถึงความขี้เล่น แสนรู้ สอนง่าย เข้าใจคน เช่นเดียวกับเรื่องเงินที่ต้องทำให้เป็นเรื่องง่าย มีดีไซน์ที่ง่าย เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย

4. ใช้ฐานข้อมูลจาก The 1 Card ที่เป็นโลยัลตี้ โปรแกรมของกลุ่มเซ็นทรัลในการช่วยผนึกกำลัง รองรับการทำธุรกิจกรมที่ร้านค้าในเครือเซ็นทรัลได้ รวมถึงร้านค้าพันธมิตรอื่นๆ

5. Dolfin Wallet เป็น e-Wallet รายแรกที่นำเอาระบบ E-KYC (Electronic Know-your-customer) มาใช้ยืนยันตัวตนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและช่วยลดขั้นตอนในการลงทะเบียนเปิดบริการ

รุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค เผยว่า

“Dolfin Wallet เป็นบริการ e-Wallet ที่ถือกำเนิดขึ้นภายใต้พันธกิจหลักในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคทุกคน ด้วยนวัตกรรมทางการเงินที่เข้าถึงได้ง่าย ตอบสนองทุกความต้องการด้านการเงินที่แตกต่างไปในแต่ละบุคคลผ่านเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ Big Data Analytics ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญหลักของเซ็นทรัล เจดี มันนี่ มาผนึกกับรีเทลรายใหญ่อย่างเซ็นทรัล มอบสิทธิประโยชน์ผ่าน The 1 Card ต้องการสร้างสังคมไร้เงินสดให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย

จับมือบัวหลวงกสิกรไทย เพราะจุดชำระเงินเยอะ

ในการเปิดตัว Dolfin Wallet ได้ทำการร่วมมือกับ 2 ธนาคารใหญ่อย่างธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทยก่อน เหตุผลที่เลือก 2 เจ้านี้เพราะว่ามีจุดชำระเงินที่มาก โดยความร่วมมือนี้ธนาคารกรุงเทพจะสนับสนุนในการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น การเติมเงิน มีระบบยืนยันตัวตน ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยมีจุดชำระ QR Payment กว่า 3 ล้านร้านค้าทั่วประเทศ

ส่วนธนาคารกสิกรไทยก็สนับสนุนการทำธุรกรรมเช่นกัน และมีจุดชำระเงินทั้งชำระผ่านเครื่อง EDC กว่า 300,000 จุด และร้านค้า K PLUS Shop อีกกว่า 1.7 ล้านราย

เฟสแรกเติมเงิน รับชำระเงิน ไปจนถึงอีไฟแนนซ์ในอนาคต

แต่ต้องบอกว่าตอนนี้ Dolfin Wallet ยังไม่ได้เปิดให้บริการ เพียงแต่ออกมาบอกก่อนว่าจะมีการทำตลาด ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขอไลเซนส์กับทางธนาคารแห่งประเทศไทยในการเป็นผู้ให้บริการ e-Wallet ซึ่งอาจจะต้องรออีกสัก 2-3 เดือนถึงจะทราบผล

รุ่งเรืองบอกว่าที่ต้องออกมาแถลงข่าวก็เพราะต้องการบอกให้คนทั่วไปรู้จักว่าเป็นใคร ทำอะไร แล้วให้อะไรแก่ผู้บริโภคได้บ้าง ตอนนี้ก็ต้องรอทาธนาคารแห่งประเทศไทยอนุมัติใบอนุญาตเท่านั้น

ในเฟสแรกของ Dolfin Wallet จะสามารถเติมเงินผ่านบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต แล้วค่อยเติมได้ผ่านบัตรเครดิต เติมเงินสดผ่านเคาท์เตอร์ CenPay ในอนาคตจะสามารถเป็นจุดรับชำระเงิน และอาจจะมีบริการอีไฟแนนซ์ในอนาคตด้วยก็ได้

สรุป

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรายใหญ่ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ร่วมมือกับรายใหญ่ในตลาดค้าลีกในไทยเช่นกัน แต่ตลาด e-Wallet ในประเทศไทยยังมีความท้าทายตรงที่พฤติกรรมผู้บริโภคยังไม่เปิดรับเท่าที่ควร ยังคงติดการใช้เงินสด ต้องมีการจูงใจให้มากกว่านี้เพื่อดึงดูดให้มาใช้งานมากขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา